วันอังคารที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

ใส่สุดฝีมือ! ผู้ตรวจกรมลุยถึงสนามซ้อม ส่งใจเชียร์ 2 เยาวชนเชฟไทย ชิงชัยเวทีอาเซียน ฟิลิปปินส์

 ใส่สุดฝีมือ! ผู้ตรวจกรมลุยถึงสนามซ้อม ส่งใจเชียร์ 2 เยาวชนเชฟไทย ชิงชัยเวทีอาเซียน ฟิลิปปินส์

 

อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน มอบหมาย นายสมบัติ โพธิวัฒน์ ผู้ตรวจราชการกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เดินสายให้กำลังใจเยาวชนสาขาการประกอบอาหาร ณ วิทยาลัยดุสิตธานี สถานที่เก็บตัวฝึกซ้อมเยาวชน จำนวน 2 คน เตรียมเข้าร่วมการแข่งขันฝีมือแรงงานอาเซียน ครั้งที่ 14 ณ สาธารณรัฐฟิลิปปินส์  เชิญชวนชาวไทยร่วมส่งแรงใจให้เยาวชนไทยคว้าชัย สิงหาคม 2568

 




นายสมบัติ โพธิวัฒน์ ผู้ตรวจราชการกรม กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดเผยว่า ประเทศไทยได้เตรียมจัดส่งเยาวชนไทย เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันฝีมือแรงงานอาเซียน ครั้งที่ 14 ณ สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 21 – 31 สิงหาคม 2568 โดยไทยจัดส่งจำนวน 17 สาขา ประกอบด้วย 1. สาขาการสร้างโมเดลในเกมสามมิติ 2. สาขาหุ่นยนต์เคลื่อนที่ (ประเภททีม) 3. สาขาเทคโนโลยีระบบไฟฟ้าภายในอาคาร 4. สาขาแต่งผม  5. สาขาเมคคาทรอนิกส์ (ประเภททีม) 6. สาขาเทคโนโลยีระบบทำความเย็น 7. สาขาการปูกระเบื้อง 8. สาขาเทคโนโลยีงานเชื่อม 9. สาขาเทคโนโลยีเว็บ 10. สาขาอุตสาหกรรม 4.0 (ประเภททีม) 11. สาขาการบำรุงรักษาเครื่องจักรกล CNC (ประเภททีม) 12. สาขาไม้เครื่องเรือน  13. สาขาการประกอบอาหาร 14. สาขาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ (ประเภททีม) 15. สาขากราฟิกดีไซน์  16. สาขาการเขียนแบบวิศวกรรมเครื่องกลด้วยคอมพิวเตอร์ และ 17. สาขาการบริการอาหารและเครื่องดื่ม




นายสมบัติ กล่าวต่อไปว่า ในวันนี้ได้มาพบปะพูดคุยให้กำลังใจเยาวชนที่เก็บตัวฝึกซ้อม เพื่อเตรียมเข้าร่วมการแข่งขันในสาขา การประกอบอาหาร ได้แก่ นายนครินทร์ จรูญพันธุ์วนิช และนางสาวบุษกร เจียมสกุล ณ วิทยาลัยดุสิตธานี  โดยที่นี่มีเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ทันสมัย เหมาะสมที่สุดสำหรับการเก็บตัวฝึกซ้อมของเยาวชนในสาขาการประกอบอาหาร เพราะเป็นวิทยาลัยที่มีความเชี่ยวชาญด้านการโรงแรมและการประกอบอาหารมาอย่างยาวนาน ซึ่งน้องทั้ง 2 คน ได้เก็บตัวฝึกซ้อมมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ต้องขอขอบคุณวิทยาลัยดุสิตธานีเป็นอย่างสูงที่ให้การสนับสนุนอย่างดีเยี่ยม ทั้งผู้ฝึกสอน ผู้เชี่ยวชาญประจำสาขา และสถานที่จึงทำให้มั่นใจว่าเยาวชนจะสามารถคว้าเหรียญรางวัลกลับมาได้อย่างแน่นอน 

 





ขอให้พี่น้องชาวไทยร่วมส่งกำลังใจเชียร์เยาวชนตัวแทนประเทศไทยให้ประสบความสำเร็จ สามารถคว้าเหรียญรางวัลกลับมา ทั้งนี้สามารถติดตามข่าวสารการแข่งขันได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน www.facebook.com/dsdgothai และ WorldSkills Thailand www.facebook.com/worldskillsthailand  นายสมบัติกล่าวในท้ายสุด

กรมสรรพากร ผนึก​ สวทช. และธนาคารกรุงไทย พัฒนาเทคโนโลยี AI เสริมศักยภาพบริการภาครัฐ

 กรมสรรพากร ผนึก​ สวทช. และธนาคารกรุงไทย พัฒนาเทคโนโลยี AI เสริมศักยภาพบริการภาครัฐ

(วันที่ 29 กรกฎาคม 2568) ณ อาคารกรมสรรพากร ซอยพหลโยธิน 7: กรมสรรพากร ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ภายใต้สังกัดกระทรวงการอุกมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และธนาคารกรุงไทย จํากัด (มหาชน) เข้าร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการพัฒนา ต่อยอด และถ่ายทอดเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี AI ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ สนับสนุนการให้บริการประชาชนและเพิ่มประสิทธิภาพภาครัฐ

นายปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า “กรมสรรพากรมีความมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมบริการ โดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ในปี 2568 – 2570 มุ่งเน้นที่จะนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาประยุกต์ใช้ในการขับเคลื่อนองค์กรอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการจัดเก็บภาษี ยกระดับการให้บริการประชาชน และ “เสริมสร้างระบบภาษีที่เป็นธรรม โปร่งใส และตรวจสอบได้” การร่วมมือกันในครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญของการขยาย ต่อยอดความร่วมมือ ของกรมสรรพากร สวทช. โดยเนคเทค และธนาคารกรุงไทย ที่ร่วมกันนำเทคโนโลยี AI มาสร้างสรรค์นวัตกรรมที่สอดคล้องภารกิจของกรมสรรพากร และยกระดับภาษีของประเทศ บริการผู้เสียภาษีให้มีศักยภาพในการแข่งขัน และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ 

นอกจากนี้ กรมสรรพากรยังเตรียมแผนในอนาคตที่ชัดเจน ในระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาวทั้งด้านการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดเก็บภาษี และด้านการบริการดิจิทัลต่อผู้เสียภาษีและประชาชน ด้วยเทคโนโลยี AI มาสนับสนุนและเตรียมข้อมูล เพื่อช่วยวิเคราะห์ และตรวจสอบภาษีให้รวดเร็วยิ่งขึ้น วิเคราะห์พฤติกรรมการยื่นแบบและชำระภาษีเพื่อออกแบบบริการภาษีให้ตรงกับแต่ละบุคคล ทั้งนี้ การนำ AI มาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต้องอาศัยความพร้อมทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลระดับสูง เทคโนโลยี AI บุคลากรด้าน AI และการกำกับดูแลอย่างโปร่งใสตามหลักจริยธรรม AI ภายใต้ความร่วมมือด้านเทคโนโลยี AI จาก สวทช. โดยเนคเทค ด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลระดับสูงจากธนาคารกรุงไทย เราจะสามารถยกระดับระบบภาษี ให้เป็นระบบที่ทันสมัย น่าเชื่อถือ มีธรรมาภิบาล และเป็นที่พึ่งของประชาชนโดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริง”

ศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวง อว. กล่าวว่า “การผนึกกำลังร่วมกับกรมสรรพากร และธนาคารกรุงไทยครั้งนี้ เป็นการต่อยอดความสำเร็จจากความร่วมมือที่มีมาก่อนหน้า เพื่อร่วมกันนำนวัตกรรมมายกระดับ  บริการดิจิทัลภาครัฐให้ก้าวหน้าไปอีกขั้น ในยุคที่ AI และ BIG DATA มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง สวทช. ได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นของการมีเทคโนโลยี AI ของประเทศ หรือ "Localize AI" ที่ถูกพัฒนาให้เข้าใจบริบทของไทยโดยเฉพาะ ทั้งด้านภาษา วัฒนธรรม และกฎระเบียบต่าง ๆ ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยยกระดับการให้บริการประชาชนได้อย่างตรงจุด แต่ยังเป็นการสร้างความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลภาครัฐ ป้องกันข้อมูลสำคัญรั่วไหลไปยังต่างประเทศ สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของแผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติเพื่อการพัฒนาประเทศไทย สวทช. โดย เนคเทค พร้อมทำหน้าที่เป็นขุมพลังด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของไทย พร้อมนำองค์ความรู้และประสบการณ์มาสนับสนุนการดำเนินงานอย่างเต็มที่ ทั้งในด้านการพัฒนาเทคโนโลยีและทักษะบุคลากร เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรม AI ที่เป็นของคนไทยเพื่อความมั่นคงทางด้านเศรษฐกิจและสังคม  และสร้างต้นแบบการบูรณาการความเชี่ยวชาญที่จะขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ยุค AI อย่างมั่นคงและยั่งยืน

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ธนาคารกรุงไทยมีความยินดีที่ได้ร่วมมือกับกรมสรรพากร และ สวทช. โดยเนคเทค สนับสนุนการพัฒนา   “RD Voice Chatbot” ระบบผู้ช่วยสนทนาอัจฉริยะ ให้บริการข้อมูลภาษีด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารกับประชาชน และเป็นกลไกสำคัญในการยกระดับภาครัฐให้เข้าถึงบริการได้ง่าย ขยายการเข้าถึงข้อมูลด้านภาษีให้ครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่มให้เท่าเทียม ทันสมัย และเสริมสร้างความโปร่งใสในการให้บริการ

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ธนาคารกรุงไทย ในฐานะธนาคารพาณิชย์ของรัฐ พร้อมสนับสนุนการดำเนินงานของภาครัฐอย่างเต็มที่ ผ่านความร่วมมือในการขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล โดยธนาคารมุ่งมั่นทำหน้าที่เป็น “GovTech Enabler” หรือพันธมิตรภาครัฐ ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัล โดยยึดมั่นในหลักการใช้เทคโนโลยี “อย่างมีความรับผิดชอบ” คำนึงถึงผลกระทบในวงกว้าง ทั้งด้านความปลอดภัย และความเป็นธรรม เพื่อยกระดับการให้บริการภาครัฐให้มีประสิทธิภาพ

ภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ ในมิติของบริการทางการเงิน จะช่วยให้การจัดเก็บข้อมูลของภาครัฐเป็นไปอย่างรวดเร็ว โปร่งใส และส่งเสริมให้โครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล (digital infrastructure) มีประสิทธิภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้น ครอบคลุมกระบวนการทำธุรกรรมระหว่างภาครัฐและภาคธุรกิจเข้าสู่ระบบอิเล็กทรอนิกส์อย่างครบวงจร แทนที่กระบวนการบนกระดาษอย่างไร้รอยต่อ โดยโครงการนี้ได้รับการอนุมัติและเห็นชอบ จากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องตามขั้นตอนภายในอย่างครบถ้วน ครอบคลุมการประยุกต์ใช้ AI ในกระบวนการทำงานของหน่วยงาน การพัฒนาทักษะบุคลากรภาครัฐให้พร้อมต่อยุคดิจิทัล และการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐาน  ด้านเทคโนโลยี AI ซึ่งรวมถึงบริการระบบคลาวด์จากธนาคารกรุงไทย ความร่วมมือในครั้งนี้สะท้อนถึงความตั้งใจร่วมกันของทุกฝ่ายในการขับเคลื่อนนวัตกรรมอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อยกระดับคุณภาพบริการภาครัฐและรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบราชการดิจิทัลอย่างยั่งยืน สามารถขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตตามวิสัยทัศน์ “กรุงไทย เคียงข้างไทย สู่ความยั่งยืน

สำหรับผู้ที่มีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานสรรพากรทุกแห่งทั่วประเทศหรือที่ศูนย์สารนิเทศสรรพากร (RD Intelligence Center) โทร. 1161

*********************************************

สอบถามเพิ่มเติม: สำนักงานเลขานุการกรม โทร. ๐ ๒๒๗๒ ๙๕๒๙-๓๐ โทรสาร ๐ ๒๖๑๗ ๓๓๒๔ 

หรือศูนย์สารนิเทศสรรพากร (RD Intelligence Center) โทร.๑๑๖๑


วันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จับมือ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ลงนามบันทึกความเข้าใจ ยกระดับ MOU ร่วมให้ความรู้ พร้อมหนุนงบประมาณด้านการฝึกอบรม และทีมบรรเทาสาธารณภัย อุปกรณ์ เครือข่ายการสื่อสาร รวมทั้งเตรียมพร้อมปฏิบัติการ บูรณาการการช่วยเหลือผู้ประสบภัยควบคู่กับการพัฒนาขีดความสามารถในระดับสากล ณ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ

 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จับมือ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ลงนามบันทึกความเข้าใจ ยกระดับ MOU ร่วมให้ความรู้ พร้อมหนุนงบประมาณด้านการฝึกอบรม และทีมบรรเทาสาธารณภัย อุปกรณ์ เครือข่ายการสื่อสาร รวมทั้งเตรียมพร้อมปฏิบัติการ บูรณาการการช่วยเหลือผู้ประสบภัยควบคู่กับการพัฒนาขีดความสามารถในระดับสากล ณ  มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ

วันนี้ (วันอังคารที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายสัก กอแสงเรือง รองประธานกรรมการ ในนามของผู้แทนประธานกรรมการมูลนิธิฯ พร้อมด้วย นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ ร่วมกับ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดย นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมด้วย นายชัยรัตน์ แก้วเพียงเพ็ญ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ลงนามบันทึกความเข้าใจ [MOU] ว่าด้วยความร่วมมือในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ผนึกกำลังทั้งทางด้านวิชาการ และการปฏิบัติการอันเป็นการบูรณาการการจัดการเพื่อเสริมสร้างศักยภาพขีดความสามารถของเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครมูลนิธิฯ และเตรียมความพร้อมรับมือสาธารณภัยให้สามารถบริหารจัดการและปฏิบัติการตอบโต้เหตุฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมยกระดับขอบเขตหน้าที่ของมูลนิธิฯ  อาทิ การร่วมกับทางกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยด้านการฝึกอบรมให้ความรู้ในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมสนับสนุนงบประมาณเครื่องมืออุปกรณ์ที่จำเป็นเพื่อรองรับการฝึกอบรม โดยมี นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ เป็นผู้กล่าววัตถุประสงค์ นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ ที่ปรึกษาประธานกรรมการมูลนิธิฯ พร้อมด้วยคณะกรรมการ และผู้บริหารของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง รวมทั้งผู้บริหารของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย ร่วมในพิธี ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคาร 2 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ



นายสัก กอแสงเรือง รองประธานกรรมการ เปิดเผยว่า ในนามของมูลนิธิฮั่วเคี้ยวป่อเต็กเซี่ยงตึ๊ง หรือ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง รู้สึกเป็นเกียรติและซาบซึ้งในความร่วมมืออันทรงคุณค่ายิ่ง ระหว่างมูลนิธิฯ กับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน  ตลอดระยะเวลา 115 ปีที่ผ่านมา มูลนิธิฯ ดำเนินงานภายใต้ปณิธาน  “ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”  โดยยึดมั่นในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทันท่วงที โดยไม่เลือกชนชั้น เชื้อชาติ วรรณะ และศาสนา ความร่วมมือในวันนี้จึงไม่เป็นเพียงพันธสัญญาเชิงรูปธรรม แต่ คือการสานต่อเจตนารมณ์ของมูลนิธิฯ ด้วยการยกระดับการบูรณาการภารกิจด้านบรรเทาสาธารณภัยไปสู่การช่วยเหลือระดับประเทศร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย  เพื่อพี่น้องประชาชนและสังคมส่วนรวม ซึ่งเชื่อมั่นว่า จะส่งผลต่อความรวดเร็ว ที่มีประสิทธิผล และความปลอดภัยในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจของทั้งสองฝ่าย และเป็นไปเพื่อประโยชน์ด้านสาธารณะอันสูงสุด


นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ เปิดเผยว่า วัตถุประสงค์หลักของบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ คือการยืนยันว่า ทั้งสองฝ่ายจะให้ความร่วมมือกันในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งยินดีที่จะสนับสนุนและร่วมปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัยตามที่ได้รับแจ้งจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และในขณะที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยก็ยินดีที่จะสนับสนุนองค์ความรู้ด้านวิชาการสาธารณภัย เพื่อเสริมสมรรถนะของเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ตามบันทึกความเข้าใจนี้ ซึ่งถือเป็นการให้บริการสาธารณะ เพื่อประโยชน์ของผู้ประสบภัยและทางราชการร่วมกัน โดยขอบเขตหน้าที่ของมูลนิธิฯ ดิฉันได้กล่าวมาข้างต้นว่าฉบับนี้จะเป็นการยกระดับความร่วมมือ คือ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมกับทางกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย ด้านการฝึกอบรมเพื่อให้ความรู้ในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และสนับสนุนบุคลากร พร้อมเครื่องมือ อุปกรณ์ให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย



สำหรับความร่วมมือระหว่าง มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้มีการประสานร่วมกันอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลายาวนาน ทั้งใน “ด้านสังคมสงเคราะห์” มีแผนกสาธารณภัย ประสานเพื่อเยียวยาผู้ประสบสาธารณภัยต่าง หรือ “ด้านบรรเทาสาธารณภัย”  ซึ่งมูลนิธิฯ มีบุคลากรทั้งเจ้าหน้าที่และอาสาสมัคร นำกำลังพร้อมอุปกรณ์ด้าน กู้ชีพ กู้ภัย ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยและได้มีการประสานงานกับปภ.ในพื้นที่ และยังมี “แผนกฝึกอบรม” ประสานจัดการ “ด้านการฝึกอบรม” เพื่อจัดอบรม เพิ่ม และพัฒนาองค์ความรู้แก่เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครซึ่งได้มีการประสานงานกันเรื่อยมาจวบจนปี พ.ศ. 2564 มูลนิธิฯ ได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อการบูรณาการการดำเนินงานด้านบรรเทาสาธารณภัยอย่างเป็นทางการครั้งแรก และได้มีการผนึกกำลังพัฒนาบุคลากรมูลนิธิฯ เรื่อยมา อาทิ หลักสูตรการกู้ภัยเบื้องต้น (BRC)  หลักสูตรการพัฒนาศักยภาพการบริหารจัดการสำหรับเจ้าหน้าที่เผชิญเหตุ หลักสูตรการกู้ภัยในกระแสน้ำไหลเชี่ยวเบื้องต้น (Basic Swiftwater Rescue) และหลักสูตรการค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง ( USAR ) เป็นต้น


ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปีที่ผ่านมา ทีมบรรเทาสาธารณภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ไม่เพียงแต่ร่วมมือกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย บรรเทาทุกข์แก่ผู้ประสบเหตุ ประสบภัยต่างๆ เท่านั้น แต่ยังร่วมกับหน่วยงานระดับประเทศในด้านต่างๆ ในการพัฒนาองค์ความรู้ให้ครอบคลุมทั้งด้านกู้ชีพ กู้ภัย และสนับสนุนงานด้านนิติเวช เพื่อให้เป็นองค์กรสาธารณกุศล บรรเทาทุกข์แก่ผู้ประสบภัยทั้งทางตรงและทางอ้อมได้อย่างมีประสิทธิผลอย่างเป็นที่ประจักษ์ และร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้ต่างๆ ให้กับภาครัฐ เอกชน และประชาชน 

ติดต่อสอบถาม และติดตามข่าวสารกิจกรรม การช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สามารถดูรายละเอียดช่องทางที่สะดวกได้ที่ https://linktr.ee/pohtecktung

.

“มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”

“แพทองธาร” รมว.วัฒนธรรม ลงพื้นที่น่าน ติดตามน้ำท่วมโบราณสถาน-ตรวจเยี่ยม-มอบสิ่งของสร้างขวัญกำลังใจแก่ประชาชนเดือดร้อนเหตุการณ์น้ำท่วม

 “แพทองธาร” รมว.วัฒนธรรม ลงพื้นที่น่าน ติดตามน้ำท่วมโบราณสถาน-ตรวจเยี่ยม-มอบสิ่งของสร้างขวัญกำลังใจแก่ประชาชนเดือดร้อนเหตุการณ์น้ำท่วม 





วันที่ 28 กรกฎาคม 2568 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ลงพื้นที่จังหวัดน่าน เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมที่ส่งผลกระทบต่อโบราณสถานในความดูแลของกรมศิลปากร พร้อมเยี่ยมชุมชน มอบถุงยังชีพ สร้างขวัญกำลังใจแก่ประชาชนและเครือข่ายทางวัฒนธรรมที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย

วันนี้ยินดีอย่างยิ่งที่ได้เดินทางมาให้กำลังใจทุกท่าน และมอบสิ่งของเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อน  ขั้นตอนหลังจากนี้ก็จะเข้าสู่การทำความสะอาดและฟื้นฟู ขอยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่ทิ้งประชาชน พร้อมจะสนับสนุนประชาชนในการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย ในส่วนของวัด โบราณสถาน ที่ได้รับความเสียหาย กระทรวงวัฒนธรรมจะเข้ามาดูแลฟื้นฟูในส่วนที่รับผิดชอบต่อไป” นางสาวแพทองธาร กล่าว

 









รมว.วัฒนธรรม ได้ตรวจเยี่ยมความเสียหายที่วัดภูมินทร์ ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน  ซึ่งเป็นวัดมีชื่อเสียงจากภาพจิตรกรรมฝาผนัง “ปู่ม่าน‑ย่าม่าน”  ที่รู้จักกันในชื่อภาพกระซิบรักบันลือโลก เป็นจิตรกรรมฝีมือช่างพื้นถิ่น แสดงถึงผู้คน การแต่งกาย วัฒนธรรม และวิถีชีวิตชาวน่าน ที่มีคุณค่าทางศิลปวัฒนธรรมอย่างยิ่ง โดยสันนิษฐานว่าจิตรกรรมดังกล่าววาดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 จากการสำรวจเบื้องต้น ภาพจิตรกรรมไม่ได้รับความเสียหายโดยตรง แต่อาจมีปัญหาความชื้นภายหลัง ซึ่งกรมศิลปากรจะได้ดำเนินการสำรวจและหาแนวทางการอนุรักษ์ที่เหมาะสมต่อไป ส่วนฐานอุโบสถตรวจพบรอยร้าว แต่ไม่กระทบถึงโครงสร้าง อย่างไรก็ตามกรมศิลปากรจะได้ประเมินความเสียหายและจัดสรรงบฯ สำหรับบูรณะเป็นกรณีเร่งด่วนต่อไป

 









นอกจากนี้ได้มอบถุงยังชีพช่วยเหลือประชาชน ต่อด้วยการลงพื้นที่อำเภอเวียงสา มอบถุงยังชีพ 1,000 ชุดแก่ผู้ประสบภัยที่วิทยาลัยการอาชีพเวียงสา และลงพื้นที่บ้านท่าดอนไชย ตำบลนาเหลือง เพื่อให้กำลังใจผู้สูงอายุและชาวบ้านในพื้นที่อีกด้วย

 

นางสาวแพทองธาร ยืนยันว่า วธ.จะทำงานเชิงรุก ประสานทุกภาคส่วน เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน รวมทั้งมอบหมายให้กรมศิลปากรจัดเตรียมแผนฟื้นฟูและป้องกัน รักษาโบราณสถาน ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติให้คงอยู่สืบไป

 

อย่างไรก็ตาม วธ. โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดน่าน ได้รายงานว่า ในวันนี้จังหวัดน่านเริ่มมีระดับน้ำลดลงในตัวเมือง แต่น้ำยังสูงในหลายอำเภอ เช่น อำเภอเวียงสา บางจุดยังมีระดับน้ำสูงถึง 2 เมตร และยังต้องใช้อุปกรณ์อย่างเรือในการเดินทางเข้าสู่บางพื้นที่ ส่วนอาคารสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด ที่พักอาศัยของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ แหล่งวัฒนธรรม วัด โบราณสถาน และศูนย์เรียนรู้ชุมชน หน่วยงานในพื้นที่ได้เริ่มดำเนินการทำความสะอาด ฟื้นฟู และสำรวจความเสียหาย เพื่อเตรียมการบูรณะซ่อมแซมเป็นวันที่ 2 เพื่อเตรียมความพร้อมให้สามารถบริการประชาชนได้ตามปกติ

นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้กรมศิลปากร เร่งดำเนินการเน้นการพัฒนาโบราณสถาน ซึ่งนอกจากการเป็นแหล่งเรียนรู้แล้วให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญเชิงวัฒนธรรม ตลอดจนบูรณะโบราณสถานที่มีศักยภาพในการเป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่มโบราณสถานที่ยังไม่ได้รับความนิยมแต่มีศักยภาพ และอยู่ใกล้เคียงกับโบราณสถานที่อยู่ใกล้กับโบราณสถานที่เป็นที่นิยม จะพัฒนาแผนงานบูรณะโบราณสถานกลุ่มนี้ เพื่อสร้างและเชื่อมเส้นทางการท่องเที่ยวใหม่ๆ ให้กับแต่ละพื้นที่ และเปลี่ยนโบราณสถานในฐานะแหล่งเรียนรู้ ไปสู่แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม แน่นอนว่าไม่ใช่แค่การซ่อมแซมฟื้นฟู แต่รวมถึงการจัดกิจกรรมเข้าไปเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวด้วย 



ก่อนเดินทางกลับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ยังได้แวะทักทายพร้อมให้กำลังใจพี่น้องประชาชนที่กำลังทำ ความสะอาดบ้านเรือน ในเขตพื้นที่เศรษฐกิจของจังหวัดน่าน ก่อนเดินทางกลับ

------------

ใส่สุดฝีมือ! ผู้ตรวจกรมลุยถึงสนามซ้อม ส่งใจเชียร์ 2 เยาวชนเชฟไทย ชิงชัยเวทีอาเซียน ฟิลิปปินส์

  ใส่สุดฝีมือ! ผู้ตรวจกรมลุยถึงสนามซ้อม ส่งใจเชียร์ 2 เยาวชนเชฟไทย ชิงชัยเวทีอาเซียน ฟิลิปปินส์   อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน  มอบหมาย นายสมบั...