วันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

“ ส.นักศึกษาเก่า มช. ” นำ นักปั่น 40 ชีวิต จัดกิจกรรม “ ปั่นเพื่อน้อง ” กรุงเทพ-เชียงใหม่ ครั้งที่ 8

 “ ส.นักศึกษาเก่า มช. ” นำ นักปั่น 40 ชีวิต จัดกิจกรรม “ ปั่นเพื่อน้อง ” กรุงเทพ-เชียงใหม่ ครั้งที่ 8 





นักปั่น 40 ชีวิต ร่วมปั่นจักรยาน จาก กทม. ถึง เชียงใหม่ ในโครงการ “ ปั่นเพื่อน้อง 8 ” (CMU Charity Cycling 8) เพื่อจัดหาทุนการศึกษาให้กับนักศึกษา มช. ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ และ นักเรียนยากจนในพื้นที่ภาคเหลือ 





ที่บริษัท โตโยต้าบัสส์ จำกัด สาขาวิภาวดี กรุงเทพฯ / เมื่อเช้า (วันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน 68) สมาคมนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมด้วย สมาคมฯ และ ชมรมนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่จังหวัดต่างๆ นำโดย นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ อดีตสมาชิกวุฒิสภา, อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการจัดงาน “ ปั่นเพื่อน้อง 8 ” พร้อมด้วย ผศ.ดร.อฬิญญา พงษ์วาท ผู้อำนวยการศูนย์สื่อสารองค์กรและนักศึกษาเก่าสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, คณะกรรมการสมาคมฯ และ นักศึกษาเก่า มช. ร่วมด้วยผู้สนับสนุนกิจกรรม ซึ่งก่อนจะปล่อยขบวนนักปั่น นายไกรพิชญ์ วารี รองประธานกรรมการจัดงาน ได้กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดโครงการปั่นเพื่อน้อง และ พิธีมอบเงินสนับสนุนเป็นทุนการศึกษา ใช้สนับสนุนอาหาร เครื่องดื่ม อุปกรณ์ที่จำเป็นให้กับนักปั่น ซึ่งการดูแลความปลอดภัยตลอดเส้นทางครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ตำรวจทางหลวงของจังหวัดต่างๆ ที่ ขบวนนักปั่นผ่าน และทหาร มทบ.31 คอยอำนวยความสะดวกตลอดระยะทาง  



สำหรับวัตถุประสงค์การจัดกิจกรรมและ มีนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เข้าร่วมพิธีเปิดและมอบเงินสนับสนุน พร้อมทั้งร่วมพิธีปล่อยขบวนจักรยาน สำหรับกิจกรรม “ ปั่นเพื่อน้อง ครั้งที่ 8 ” (CMU Charity Cycling 8) จัดขึ้นเพื่อระดมทุนสนับสนนุเป็นทุนการศึกษาให้กับนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ สนับสนุนโครงการ/กิจกรรมสาธารณประโยชน์อื่นๆ และรณรงค์ให้นักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่และประชาชนทั่วไปได้ตระหนักถึงความสำคัญของการศึกษา และการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ โดยเชื่อมโยงการออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยาน เป็นช่องทางในการประชาสัมพันธ์ การระดมทุนและการรับบริจาค รวมทั้ง มีนักปั่นจักรยานฯ ในจังหวัดต่างๆ ที่ขบวนจักรยานปั่นผ่านร่วมสมทบเพิ่มขึ้น ยังเป็นการรณรงค์ให้นักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่และประชาชนทั่วไป ตระหนักถึงความสำคัญของการออกกำลังกาย เพื่อสร้างความแข็งแรงแก่สุขภาพ และยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ รวมพลังความรักความห่วงใยของรุ่นพี่ที่มีต่อน้องอีกด้วย 












กำหนดการปล่อยขบวนจักรยานฯจัดให้มีขึ้น ออกจากจุดสตาร์ท ที่ บ.โตโยต้าบัสส์ วิภาวดี เพื่อปั่นสู่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในวันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2568 เปิดให้นักปั่นจักรยานรายงานตัวตั้งแต่เวลา 05.30 น. และมี พิธีเปิด มอบเงินสนับสนุน ปล่อยขบวนจักรยาน เวลา 06.30 น. ร่วมกันปลอ่ยขบวนนักปั่นจักรยาน จำนวน 40 คน ในโครงการ “ ปั่นเพื่อน้อง กรุงเทพฯ - เชียงใหม่ ครั้งที่ 8 ” ระหว่างวันที่ 15 – 20 พฤศจิกายน 2568 โดยใช้ระยะเวลาการปั่นจำนวน จากกรุงเทพ ปั่นถึง ศาลาธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เส้นทางปั่นเริ่มต้น กรุงเทพมหานคร และผ่านจังหวัดต่างๆ ได้แก่.. ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สิงห์บุรี ชัยนาท อุทัยธานี นครสวรรค์ กำแพงเพชร สุโขทัย ลำปาง ลำพูน และ เชียงใหม่ สิ้นสุดปลายทางมหาวิทยาลัย เชียงใหม่ เป็นเวลา 6 วัน ระยะทางกว่า 840 กิโลเมตร 




สำหรับกิจกรรม “ ปั่นเพื่อน้อง ครั้งที่ 8 ” (CMU Charity Cycling 8) เพื่อสรรหาเงินบริจาคไปจัดสรร เป็นทุนการศึกษาและสนับสนุนโครงการ/กิจกรรมสาธารณประโยชน์อื่นๆ รณรงค์ให้นักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่และประชาชนทั่วไปได้ตระหนักถึงความสำคัญของการออกกำลังกายเพื่อสร้างความแข็งแรงแก่สุขภาพกาย และเพื่อร่วมแสดงน้ำใจต่อเพื่อนมนุษย์ ขอเชิญชวนศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และประชาชนทั่วไป ร่วมบริจาคเพื่อการกุศลเป็นทุนการศึกษาให้กับนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ติดตามรายละเอียดได้ที่เพจเฟซบุ๊ก CMUAA สมาคมนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ...

เอกนิติยึดมั่นในคุณธรรมแห่งวิชาชีพนักกฎหมาย แม้ลูกความยังติดค้างค่าวิชาชีพ

 เอกนิติยึดมั่นในคุณธรรมแห่งวิชาชีพนักกฎหมาย แม้ลูกความยังติดค้างค่าวิชาชีพ

บริษัท เอกนิติอินเตอร์ลอว์ จำกัด ย้ำจุดยืน แม้ลูกความบางคนยังคงค้างค่าวิชาชีพ จะไม่ไปทำงานให้กับคู่กรณีอีกฝ่าย 

นางสาวสิริรัตน์ ราวินิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอกนิติอินเตอร์ลอว์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯได้รับอรรถคดีเป็นจำนวนมาก ซึ่งในบางคดีบางลูกความของเราไม่สามารถกลั่นกรองในอุปนิสัยใจคอของลูกความบางคนได้ ซึ่งเชื่อว่าสำนักงานกฎหมายและทนายความทุกๆท่านหลายๆแห่งต่างประสบปัญหามาเหมือนๆกัน โดยปัจจุบันแม้จะมีลูกความที่ยังคงค้างค่าวิชาชีพกับบริษัท เอกนิติอินเตอร์ลอว์ จำกัด อยู่เป็นจำนวนอยู่หลายๆคดี แต่ลูกความบางคนก็ดีมีมารยาทที่ดี ลูกความบางคนก็ไม่ใช่คะ บางครั้งสำนักงานหลายๆแห่งต่างประสบปัญหาเหมือนๆกัน ที่ลูกความค้างค่าวิชาชีพไปพูดเพื่อดิสเครดิตกัน ปัจจุบันโลกมันไม่ได้กว้างเช่นในวงการกฎหมายย่อมแคบคนที่ถูกนำไปพูดต่อๆกันก็ยืนยันได้เป็นอย่างดี 

นางสาวสิริรัตน์ ราวินิจ กล่าวต่ออีกว่า บริษัท เอกนิติอินเตอร์ลอว์ จำกัด เกิดขึ้นจาก บริษัท ทรีแมน แอนด์ทีม จำกัด ซึ่ง บริษัท ทรีแมน แอนด์ ทีม จำกัดนี้ ดำเนินกิจการมาตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.2555 รวมทั้งสิ้น 13 ปี ย่อมมีความเข้มแข็งอยู่พอสมควร ดังนั้นลูกความที่ไปกล่าวกับบุคคลทั่วๆไป ที่อ้างถึงบริษัท เอกนิติอินเตอร์ลอว์ จำกัด ให้เกิดความเสียหาย และ หรือ รวมถึง ผู้บริหารเอกนิติให้เกิดความเสียหาย กล่าวหาว่า บริษัท เอกนิติอินเตอร์ลอว์ จำกัด ไปรับคดีอีกฝ่ายหนึ่ง ขอให้แสดงหลักฐานมาได้เลยคะ 

กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอกนิติอินเตอร์ลอว์ จำกัด กล่าวอีกว่า ปัจจุบัน เราทราบแล้วว่า ลูกความคนๆนั้น คือใคร ดังนั้น เราจะขอเรียนเชิญผู้ที่ได้รับข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงข่าว และจะขอเรียนเชิญ โจทก์ จำเลย ในคดี ของลูกความคนๆนั้น ร่วมกันแถลงข่าว ต่อไปคะ นางสาวสิริรัตน์ ราวินิจ กล่าวทิ้งท้าย 

ลพบุรีเขต 1 ลั่นกลองรบ รวมไทยสร้างชาติดันสัตวแพทย์หญิง ‘’หมอเจี๊ยบ‘’ เป็น สส. ชูนโยบาย รพ.สัตว์ของรัฐ จัดระเบียบลิง-น้ำประปาเข้าถึงและดื่มได้

 ลพบุรีเขต 1 ลั่นกลองรบ รวมไทยสร้างชาติดันสัตวแพทย์หญิง ‘’หมอเจี๊ยบ‘’ เป็น สส. ชูนโยบาย รพ.สัตว์ของรัฐ จัดระเบียบลิง-น้ำประปาเข้าถึงและดื่มได้



​วันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2568 ทีมลพบุรีพรรครวมไทยสร้างชาติจัด ประชุมทีมว่าที่ผู้สมัคร ลพบุรี เขต 1 หมอเจี๊ยบ สพ.ญ. บุษยมาศ เจียมวิจิตรกร และ รุ่งวิทย์ แจ้งสว่าง ว่าที่ผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อพรรค โดยมี รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ เคนโด้ เกรียงไกรมาศ พจนสุนทร ร่วมประชุมแนวทางนโยบายในพื้นที่ โดยชูนโยบายด้านสัตว์เลี้ยง เพราะเป็นปัญหาใหญ่ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นการทำฐานข้อมูลสัตว์อย่างเป็นรูปธรรมเพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาอย่างตรงจุด อาทิ การฝังไมโครชิพซึ่งได้ทำแล้วให้เป็นโมเดลต้นแบบ การทำโรงพยาบาลสัตว์ของรัฐในราคาที่เป็นธรรม เพราะปัจจุบันสังคมไทยหลายครอบครัวเลี้ยงสัตว์ทั้งสุนัขและแมว พอสัตว์เลี้ยงป่วยมีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก ซึ่งหมอเจี๊ยบ สพ.ญ. บุษยมาศ เจียมวิจิตรกร มีประสบการณ์ด้านการทำโรงพยาบาลสัตว์ ได้ออกแบบนโยบายไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทำได้จริง จะมีการเริ่มฝังไมโครชิพในวันที่ 3 ธันวาคม 2568


ส่วนนโยบายน้ำประปาดื่มได้ ก็สามารถทำได้จริงและทำมาแล้ว จากพื้นที่ที่ไม่มีน้ำประปาจนสามารถเป็นน้ำประปาดื่มได้ โดย นาย รุ่งวิทย์ แจ้งสว่าง ว่าที่ผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ ในพื้นที่ อำเภอบ้านหมี่ ด้วยก่อนหน้านั้นได้รับเสียงสะท้อนปัญหาของประชาชน จึงได้ลงพื้นที่ และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสามารถแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้

​และยังได้ร่วมลงพื้นที่บริเวณศาลพระกาฬ และ พระปรางค์สามยอด เพื่อรับฟังปัญหาของประชาชน สิ่งที่เป็นปัญหาที่ประชาชนสะท้อนคือปัญหาปากท้องและเศรษฐกิจ ซึ่งได้ชี้แจงประชาชนถึงปัญหาที่เกี่ยวข้องคือ ค่าครองชีพสูงส่วนหนึ่งมาจากปัญหาต้นทุนด้านพลังงาน ทั้งค่าไฟ ค่าน้ำมัน ค่าก๊าซ ที่พุ่งสูงขึ้น นโยบายหลักของรวมไทยสร้างชาติเราทำเรื่องนี้สำเร็จมาแล้ว คุณ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค ขณะที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานสามารถลดค่าไฟรวมแล้วกว่า 270,000 ล้าน และยังจะทำต่อไปถ้ามีโอกาสกลับมารับใช้ประชาชน

รวมทั้งปัญหาลิงลพบุรี ได้มีการวางแผนนโยบายทำอุทยานลิงที่จำลองธรรมชาติให้ลิงได้อยู่ และสามารถจัดระเบียบได้จริง


​สามารถติดตามรวมไทยสร้างชาติลพบุรีได้ทางช่องทาง Line :เพื่อนรักหมอเจี๊ยบ Facebook Fanpage:หมอเจี๊ยบ TikTok:หมอเจี๊ยบ

วันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

รองนายกฯ สุชาติ ยืนยัน รัฐบาลไม่ปรับค่ามาตรฐานสารหนู จากไม่เกิน 0.01 มก./ล เป็น 0.05 มก./ล พร้อมจะออกมาตรฐานสิ่งแวดล้อมที่เข้มข้นขึ้น เพื่อคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและประชาชน

 รองนายกฯ สุชาติ ยืนยัน รัฐบาลไม่ปรับค่ามาตรฐานสารหนู จากไม่เกิน 0.01 มก./ล  เป็น 0.05 มก./ล  พร้อมจะออกมาตรฐานสิ่งแวดล้อมที่เข้มข้นขึ้น เพื่อคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและประชาชน

นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีคุณภาพน้ำในแม่น้ำแม่กก ลำน้ำสาขา แม่น้ำสาย แม่น้ำโขงและแม่น้ำสาละวิน มีการตรวจพบโลหะหนัก และบางจุดมีการตรวจพบสารหนูเกินค่ามาตรฐานแหล่งน้ำผิวดิน ซึ่งตามมาตรฐานประเทศไทยกำหนดไว้ไม่เกิน 0.01 มิลลิกรัมต่อลิตร (มก./ล.) ซึ่งเป็นค่ามาตรฐานสูงสุดที่เทียบได้กับค่าน้ำดื่ม และมีการเผยแพร่ข่าวว่า รัฐบาลพยายามผลักดันการแก้ปัญหาจากปรับค่าสารหนู จาก 0.01 มก./ล.เป็น 0.05 มก./ล. ตามมาตรฐานประเทศ จีน มาเลเซีย เวียดนาม และอีกหลายประเทศที่ใช้ รวมถึงตรงกับมาตรฐานของเมียนมา ที่ป็นต้นเหตุและที่มาของแหล่งน้ำที่ทำให้เกิดปัญหาสารหนูดังกล่าว

นายสุชาติ กล่าวว่า ตนเป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ขอยืนยันว่า รัฐบาลไม่มีแนวคิดที่จะปรับค่ามาตรฐานแหล่งน้ำผิวดิน จากค่ามาตรฐานไม่เกิน 0.01 มก./ล.ไปเป็น 0.05 มก./ล. ตามที่เป็นข่าว และรัฐบาลพร้อมฟังเสียงจากประชาชนและทุกภาคส่วน พร้อมหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน เพื่อให้ประชาชนมีความมั่นใจว่าได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี มีความปลอดภัยในการดำรงชีวิต การประกอบอาชีพในพื้นที่ สภาพเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวกลับมาคึกคักเหมือนเดิม 


ทั้งนี้ การกำหนดมาตรฐานคุณภาพสิ่งแวดล้อม เป็นการสร้างเกณฑ์เพื่อควบคุมมลพิษ และปกป้องระบบนิเวศ ให้คงอยู่ได้อย่างยั่งยืน การกำหนดมาตรฐานจะช่วยลดผลกระทบจากมลพิษต่อสิ่งมีชีวิตในธรรมชาติและสุขภาพของประชาชน โดยมีเป้าหมายหลักเพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมให้มีความสมดุล ซึ่งรัฐบาลมีความเข้าใจ และจะสนับสนุนการดำเนินทุกอย่าง ทั้งจะออกมาตรฐานสิ่งแวดล้อมที่เข้มข้นขึ้น เพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของประชาชน นายสุชาติ กล่าว


วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

รองนายกฯ สุชาติ ประชุม กทช. ครั้งที่ 2/2568 เคาะเกณฑ์ใช้ประโยชน์ที่ดินป่าชายเลน เพื่อแก้ไขปัญหาการอยู่อาศัยและทำกินของประชาชน

 รองนายกฯ สุชาติ ประชุม กทช. ครั้งที่ 2/2568 เคาะเกณฑ์ใช้ประโยชน์ที่ดินป่าชายเลน เพื่อแก้ไขปัญหาการอยู่อาศัยและทำกินของประชาชน

     วันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติ (กทช.) ครั้งที่ 2/2568 โดยมี ดร.ชญานันท์ ภักดีจิตต์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พร้อมด้วยคณะกรรมการฯ และผู้ทรงคุณวุฒิที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล

 


    นายสุชาติ ชมกลิ่น กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งนี้ ได้ร่วมกันพิจารณาเรื่องสำคัญ ได้แก่ (ร่าง) ข้อกำหนด หลักเกณฑ์ มาตรการการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ป่าชายเลนในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และเขตป่า ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2561 โดยพิจารณาการใช้ประโยชน์พื้นที่ในลักษณะแปลงรวม ระยะเวลาในการเข้าอยู่อาศัยและทำกิน เพื่อความเป็นธรรมกับประชาชนที่ได้อยู่อาศัยทำกินในพื้นที่ป่าชายเลนโดยไม่มีเอกสารสิทธิ์ และแก้ไขปัญหาการอยู่อาศัยและทำกินของประชาชนในพื้นที่ป่าชายเลนให้ถูกต้อง เป็นไปตามข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องและสิทธิของผู้ได้รับจัดสรรที่ดิน เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งและข้อพิพาทในภายหลัง คาดว่า จะมีประชาชนได้รับประโยชน์ไม่น้อยกว่า 106,786 ครัวเรือน พร้อมกันนี้ ตน ได้เน้นย้ำให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเร่งดำเนินการและบูรณาการในการทำงานร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเสริมการป้องกันและแก้ไขปัญหาสถานการณ์หญ้าทะเลเสื่อมโทรม พะยูนเกยตื้น และการลักลอบตัดเขี้ยวพะยูนเพื่อการค้า อีกทั้ง ให้กรม ทช. เร่งการขับเคลื่อนการจัดตั้งเขตคุ้มครองทางทะเลโดยชุมชน (LMMAs) เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ประเทศไทยจะต้องมีการคุ้มครองพื้นที่ทางทะเลให้ได้ร้อยละ 30 ภายในปี พ.ศ. 2573 ตามพันธกรณีที่สำคัญ 

    ในที่ประชุม ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี ได้รายงานข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งพื้นที่ 24 จังหวัดชายฝั่ง ในรอบ 6 เดือน (พฤษภาคม - ตุลาคม 2568) พบว่า พื้นที่หญ้าทะเลในภาพรวมฝั่งทะเลอันดามัน (จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ และตรัง) มีแนวโน้มลดลง ในขณะที่จังหวัดสตูลมีพื้นที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยรวมแล้วพื้นที่การแพร่กระจายของหญ้าทะเลใน 6 จังหวัดดังกล่าว อยู่ที่ประมาณ 53,000 ไร่ ลดลงจากปี 2567 ประมาณ 6,000 ไร่หรือคิดเป็นการลดลงร้อยละ 10 อย่างไรก็ตาม พบสัญญาณการฟื้นตัวของหญ้าทะเลบางชนิด เช่น หญ้าใบมะกรูด หญ้าชะเงาใบมน และหญ้าชะเงาเต่า ในพื้นที่บ้านสะพานช้างและอ่าวดุหยง (ตรัง) อ่าวน้ำเมา (กระบี่) และเกาะลิดี (สตูล) ส่วนหญ้าคาทะเลยังมีสภาพเสื่อมโทรม ขณะเดียวกันพบว่าการจัดทำคอกกั้นหญ้าทะเลที่อ่าวป่าคลอก จังหวัดภูเก็ต ช่วยให้หญ้าทะเลภายในคอกฟื้นตัวดี ใบยาวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ ยังมีการค้นพบแหล่งหญ้าทะเลน้ำลึกใหม่ในจังหวัดพังงาและตรัง รวมพื้นที่ประมาณ 5,000 ไร่ ซึ่งเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อความหลากหลายของระบบนิเวศหญ้าทะเลในฝั่งอันดามัน และจากข้อมูลการสำรวจพะยูน โดยใช้อากาศยานไร้คนขับ การสัมภาษณ์ และการมีส่วนร่วมของประชาชน ในพื้นที่เกาะลิบงและพื้นที่ใกล้เคียง พบประชากรพะยูนอยู่ที่ 49 – 56 ตัว โดยจำนวนประชากรเพิ่มขึ้นจากช่วงต้นปี 2568 สำหรับสถานการณ์พะยูนเกยตื้นพบว่า จำนวนการเกยตื้นลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2567 คือ ลดจาก 19 ตัวเป็น 12 ตัว คิดเป็นการลดลงร้อยละ 36 สาเหตุการตายส่วนใหญ่เกิดจากการป่วย และยังพบการลักลอบตัดหัวซากพะยูนในพื้นจังหวัดกระบี่ จำนวน 1 ตัว นอกจากนี้ ได้รายงานการขับเคลื่อนการจัดตั้งเขตคุ้มครองทางทะเลโดยชุมชน (LMMAs) โดยกรม ทช. ได้ร่วมขับเคลื่อนเป้าหมายนี้อย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการส่งเสริมพื้นที่คุ้มครองทางทะเลที่จัดการโดยชุมชน  ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภาพรวมการบริหารจัดการพื้นที่ทางทะเลของประเทศ เพื่อให้ประเทศไทยสามารถบรรลุเป้าหมาย 30×30 ได้อย่างมีส่วนร่วมและยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการดำเนินงานร่วมกับองค์กรต่างๆ


    ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบ (ร่าง) ข้อกำหนด หลักเกณฑ์ มาตรการการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ป่าชายเลน ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และในเขตป่า ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2561 จำนวน 2 ฉบับ โดยมอบหมายให้กรม ทช. ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง และปรับปรุงระเบียบกรมฯ ดังนี้ 1) ระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเก็บรักษา และการใช้จ่ายเงินค่าบริการ หรือค่าตอบแทน เพื่อบำรุงรักษาป่าชายเลนในเขตป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2566 2) ระเบียบว่าด้วยการเก็บค่าบริการหรือค่าตอบแทนสำหรับการที่พนักงานเจ้าหน้าที่ให้บริการ พ.ศ. 2566 รวมถึงขอความเห็นชอบกระทรวงการคลัง กรณี ไม่นำเงินรายได้ หรือเงินอื่นใดส่งคลัง / หรือบางส่วนพร้อมทั้ง เห็นชอบการปรับปรุงองค์ประกอบ หน้าที่และอำนาจ ตาม (ร่าง) คำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่พระราชนิเวศน์มฤคทายวันฯ โดยให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งดำเนินการเสนอคำสั่งดังกล่าวต่อประธานกรรมการนโยบายและแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติ เพื่อโปรดพิจารณาลงนาม ต่อไป


DMT รับมอบใบประกาศนียบัตรรับรอง “โครงการ Tollway Better Way อบรมส่งเสริมสนับสนุนสร้างอาชีพให้กับประชาชนเขตหลักสี่ และเขตดอนเมือง”

 DMT รับมอบใบประกาศนียบัตรรับรอง “โครงการ Tollway Better Way อบรมส่งเสริมสนับสนุนสร้างอาชีพให้กับประชาชนเขตหลักสี่ และเขตดอนเมือง” 

บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือ DMT ได้รับมอบใบประกาศนียบัตรรับรอง “โครงการ Tollway Better Way อบรมส่งเสริมสนับสนุนสร้างอาชีพให้กับประชาชนเขตหลักสี่ และเขตดอนเมือง” จากสถาบันไทยพัฒน์ โดยมี ดร.ศักดิ์ดา พรรณไวย กรรมการผู้จัดการบริษัทฯ เป็นผู้แทนรับมอบจาก อาจารย์วรณัฐ เพียรธรรม ผู้อำนวยการสถาบันไทยพัฒน์

โครงการ Tollway Better Way อบรมส่งเสริมสนับสนุนสร้างอาชีพให้กับประชาชนเขตหลักสี่ และเขตดอนเมือง ถือเป็นโครงการนำร่องที่มุ่งสร้างโอกาสทางอาชีพให้กับประชาชนกลุ่มเปราะบางและผู้สูงอายุในพื้นที่ชุมชนโดยรอบ ให้ได้รับการอบรมทักษะอาชีพและสนับสนุนให้เกิดการสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว ได้รับการประเมินผลกระทบทางสังคมด้วยเครื่องมือ SIF (Social Impact Footprint) ซึ่งสอดคล้องกับมาตรฐานสากล GRI (Global Reporting Initiative) สะท้อน “มูลค่าทางสังคม” ที่ DMT ส่งมอบให้แก่ชุมชนอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน

DMT เตรียมนำแนวทางการประเมินผลกระทบทางสังคมด้วยเครื่องมือ SIF ที่ใช้ในโครงการนี้ ไปประยุกต์ใช้กับกิจกรรมเพื่อสังคมรูปแบบอื่นๆ ในอนาคต เพื่อยกระดับการออกแบบและบริหารโครงการให้สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกที่ยั่งยืนมากยิ่งขึ้น


“ ส.นักศึกษาเก่า มช. ” นำ นักปั่น 40 ชีวิต จัดกิจกรรม “ ปั่นเพื่อน้อง ” กรุงเทพ-เชียงใหม่ ครั้งที่ 8

  “ ส.นักศึกษาเก่า มช. ” นำ นักปั่น 40 ชีวิต จัดกิจกรรม “ ปั่นเพื่อน้อง ” กรุงเทพ-เชียงใหม่ ครั้งที่ 8  นักปั่น 40 ชีวิต ร่วมปั่นจักรยาน จาก...