“กรมการค้าภายใน” จับมือ "โก โฮลเซลล์" ช่วยเกษตรกรไทย รับซื้อผลไม้กระจายสู่ผู้บริโภค
นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ภายใต้นโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับการยกระดับรายได้เกษตรกรและส่งเสริมการบริโภคผลไม้ไทยในประเทศ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จึงได้มอบหมายให้กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ประสานห้างค้าส่งค้าปลีกรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรโดยตรง เพื่อดันราคาให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม กรมการค้าภายใน จึงได้ร่วมมือกับ “โก โฮลเซลล์” (GO WHOLESALE) ศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหารในเครือเซ็นทรัล รีเทล โดยโก โฮลเซลล์ได้ให้ความร่วมมือกับกรมการค้าภายในมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้เข้าร่วมกิจกรรมการเชื่อมโยงผ่านตลาดข้อตกลง โดยใช้สัญญาข้อตกลงมาตรฐานของกรมการค้าภายใน รวมแล้วกว่า 125 ตัน มูลค่า 5 ล้านบาท (ต.ค.-67 - พ.ค.68) ซึ่งมีผลไม้หลายชนิด ทั้งมังคุด สับปะรด ลองกอง เงาะ สละ ลำไย ลิ้นจี่ และกระท้อน นอกจากนี้ โก โฮลเซลล์ยังได้จัดทำโครงการ “GO Food ส่งสุขให้ทุกรอยยิ้ม” โดยมีเป้าหมายในการกระจายผลไม้คุณภาพจากสวนเกษตรกรไทยสู่ผู้บริโภค พร้อมร่วมทำบุญมอบทุนอาหารกลางวันให้โรงเรียนในพื้นที่ที่มีสาขาของโก โฮลเซลล์ตั้งอยู่ทั่วประเทศ
“ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายเร่งด่วนของกระทรวงพาณิชย์ในการบริหารจัดการผลไม้ ภายใต้ “Thai Fruits Festival 2025” เพื่อกระตุ้นการบริโภค โดยมีผลไม้ราคาพิเศษ อาทิ มังคุด ซื้อ 4 กก.ขึ้นไป กก.ละ 25 บาท หรือ 4 กก. 100 บาท วางจำหน่ายทั้ง 13 สาขา ปริมาณกว่า 100 ตัน เงาะโรงเรียน ซื้อ 3 กก.ขึ้นไป กก.ละ 45 บาท หรือ 3 กก. 135 บาท แก้วมังกร ซื้อ 4 กก.ขึ้นไป กก.ละ 25 บาท หรือ 4 กก. 100 บาท และลำไย กก.ละ 69 บาท พร้อมทั้งโก โฮลเซลล์ได้จัดกิจกรรม “GO Food ส่งสุขให้ทุกรอยยิ้ม” เพิ่มเติม ซึ่งไม่เพียงช่วยเพิ่มช่องทางจำหน่ายผลไม้ให้เกษตรกร แต่ยังสร้างแรงจูงใจในการบริโภคผลไม้ และปลูกฝังการแบ่งปันให้กับสังคม โดยทุก 1 กก. หรือ 1 หน่วยผลไม้ที่จำหน่ายได้ เท่ากับการบริจาค 1 บาทเข้าสู่ทุนอาหารกลางวันสำหรับเด็กนักเรียน” นายกรนิจกล่าว
โครงการ “GO Food ส่งสุขให้ทุกรอยยิ้ม” เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือทั้งเกษตรกรและเยาวชนไทย ผ่านการเลือกซื้อผลไม้ 6 ชนิดที่เข้าร่วม ได้แก่ แตงโม (พันธุ์กินรี ตอปิโด ซอนญ่า), เมลอนเนื้อเขียว, เมลอนเนื้อส้ม, แคนตาลูปซันเลดี้, มะละกอฮอลแลนด์, สับปะรดศรีราชา และกล้วยหลากหลายสายพันธุ์ ทั้งกล้วยหอม กล้วยคาเวนดิช กล้วยไข่ และกล้วยน้ำว้า โดยเริ่มตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ตุลาคม 2568 และจะมีการรวบรวมยอดบริจาคส่งมอบให้โรงเรียนในพื้นที่ในช่วงสิ้นสุดโครงการ
“กรมการค้าภายในจึงขอเชิญชวนประชาชนทุกท่าน ร่วมอุดหนุนผลไม้จากเกษตรกรไทย นอกจากจะได้บริโภคของดีจากสวนไทยแล้ว ยังได้ร่วมสร้างรอยยิ้มให้กับเด็กๆ และแบ่งเบาภาระของเกษตรกรในช่วงที่ผลผลิตล้นตลาด เป็นอีกหนึ่งรูปธรรมของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจตามนโยบายของรัฐบาล” นายกรนิจ กล่าวทิ้งท้าย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น