วันเสาร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2568

ครอบครัวพิสุทธิ์ศักดิ์ รู้สึกซาบซึ้งต่อการดูแลของ ออดี้ไทยแลนด์

 ครอบครัวพิสุทธิ์ศักดิ์ รู้สึกซาบซึ้งต่อการดูแลของ ออดี้ไทยแลนด์

พลตำรวจโทพิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ อดีตผู้ช่วย ผบ.ตร. ฝากขอบคุณ คุณธีรคุปต์ ธรรมมนีวงศ์ แห่ง ออดี้ไทยแลนด์ ที่ได้ดูแล และแสดงความรับผิดชอบ ต่อรถของบุตรชาย (ร้อยตำรวจเอก สิทธิศักดิ์ พิสุทธิ์ศักดิ์) ครอบครัวพิสุทธิ์ศักดิ์ รู้สึกซาบซึ้งต่อการดูแลของ ออดี้ไทยแลนด์ และยืนยันจะเป็นลูกค้าของ ออดี้ไทยแลนด์ ตลอดไป

วันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2568

มทร.ธัญบุรี เปิดหอประชุมรองรับ ‘ศึกยูโดซีเกมส์ครั้งที่ 33’ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) ได้รับเกียรติจากการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันกีฬายูโด ในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 โดยกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11 – 14 ธันวาคม 2568 ณ หอประชุมราชมงคล จังหวัดปทุมธานี โดยมีนักกีฬา ผู้ฝึกสอน และสตาฟโค้ชจาก 9 ชาติในภูมิภาคอาเซียนเข้าร่วมชิงชัยกว่า 380 คน

 มทร.ธัญบุรี เปิดหอประชุมรองรับ ‘ศึกยูโดซีเกมส์ครั้งที่ 33’  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) ได้รับเกียรติจากการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันกีฬายูโด ในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33  โดยกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11 – 14 ธันวาคม 2568 ณ หอประชุมราชมงคล จังหวัดปทุมธานี โดยมีนักกีฬา    ผู้ฝึกสอน และสตาฟโค้ชจาก 9 ชาติในภูมิภาคอาเซียนเข้าร่วมชิงชัยกว่า 380 คน 

รองศาสตราจารย์ ดร.สมหมาย ผิวสอาด อธิการบดี มทร.ธัญบุรี เปิดเผยว่า การได้รับคัดเลือกให้เป็นสนามแข่งขันยูโดอย่างเป็นทางการในซีเกมส์ครั้งนี้ ถือเป็นเกียรติของมหาวิทยาลัย ต้องขอขอบคุณทางการกีฬาแห่งประเทศไทย  กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ให้ความไว้วางใจเลือกใช้หอประชุมราชมงคลเป็นสนามแข่งขัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมของมหาวิทยาลัย ทั้งด้านมาตรฐานอาคารสถานที่ ความปลอดภัย ระบบบริหารจัดการ ทาง มทร.ธัญบุรี ได้เตรียมความพร้อมด้านสถานที่ และระบบสนับสนุนต่าง ๆ อย่างรัดกุม เพื่อให้การแข่งขันดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ มีการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างหลายหน่วยงานภายในมหาวิทยาลัย ทั้งด้านวิศวกรรม ความปลอดภัย การบริการสถานที่ และการอำนวยความสะดวกให้กับนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทุกประเทศ จึงขอเชิญชวนนักศึกษา บุคลากร มหาวิทยาลัย ฯ ตลอดจนประชาชนและชุมชนโดยรอบร่วมเป็นกำลังใจให้กับนักกีฬาทีมชาติไทยที่เข้าร่วมการแข่งขัน ขอร่วมเป็นพลังสนับสนุนกองทัพนักกีฬายูโดทีมชาติไทยทุกคน ให้สามารถแข่งขันอย่างเต็มศักยภาพ คว้าชัยชนะในการแข่งขันยูโดซีเกมส์ครั้งนี้ 

อธิการบดี มทร.ธัญบุรี กล่าวเพิ่มเติมว่า มทร.ธัญบุรี ยืนยันความพร้อมในการทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางด้านการจัดการแข่งขันกีฬาและกิจกรรมระดับนานาชาติ พร้อมยึดมั่นในการเป็นสถาบันการศึกษาที่พัฒนาเยาวชน สังคม และประเทศชาติอย่างยั่งยืน


    ฝ่ายข่าว กองประชาสัมพันธ์ มทร.ธัญบุรี 0-2549-4994

ขับเคลื่อนนโยบาย “รัฐมนตรีสุรศักดิ์“ กระทรวง อว. นำไทยในเวทีโลก ใช้เทคโนโลยีปรมาณูเพื่อสันติแก้ปัญหา "วิกฤตพลาสติก"

 ขับเคลื่อนนโยบาย “รัฐมนตรีสุรศักดิ์“ กระทรวง อว. นำไทยในเวทีโลก ใช้เทคโนโลยีปรมาณูเพื่อสันติแก้ปัญหา "วิกฤตพลาสติก" 

ประเทศไทยประกาศความมุ่งมั่นในการใช้ “เทคโนโลยีปรมาณูเพื่อสันติ” เป็นเครื่องมือสำคัญในการแก้ปัญหามลพิษพลาสติกที่ทวีความรุนแรงขึ้นทั่วโลก ภายในเวทีประชุม International High-Level Forum on NUTEC Plastics ซึ่งได้รับเกียรติจากประธานาธิบดีฟิลิปปินส์และผู้อำนวยการใหญ่ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) เข้าร่วมพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ ณ กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ 

ในการประชุมครั้งนี้ นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนประเทศไทย  กล่าวว่า ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล  ได้มอบหมายและขับเคลื่อนนโยบาย “วิทย์พิชิตภัย” ซึ่งมุ่งนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้ามาแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะมลพิษจากพลาสติกที่เป็นปัญหาสำคัญของประเทศ ซึ่งประเทศไทยมีปริมาณขยะพลาสติกจำนวนมหาศาลต่อปี แต่สามารถรีไซเคิลได้เพียงส่วนน้อย ซึ่งขยะพลาสติกดังกล่าวใช้เวลาย่อยสลายนานเกือบ 1,000 ปี ส่วนหนึ่งหลุดรอดลงสู่แหล่งน้ำ แม่น้ำ และทะเล กลายเป็นไมโครพลาสติกส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ สัตว์ทะเล ความปลอดภัยด้านอาหาร และสุขภาพของประชาชน รวมถึงภาคการท่องเที่ยวของประเทศ จึงจำเป็นต้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังและยั่งยืน

ประเทศไทยได้เข้าร่วมโครงการของ IAEA ภายใต้ NUTEC Plastics Initiative จำนวน 5 โครงการ และได้นำลำแสงอิเล็กตรอน Electron Beam (EB) โดยสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (สทน.) มาช่วยเพิ่มคุณภาพพลาสติกรีไซเคิลและยืดอายุการใช้งาน ช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกที่จะเข้าสู่สิ่งแวดล้อม รวมถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีปรมาณูเพื่อสันติร่วมกับเครื่องมือขั้นสูงในการวิเคราะห์ไมโครพลาสติกในระบบนิเวศทางทะเล และการประเมินผลกระทบของไมโครพลาสติกต่อสัตว์ทะเลเศรษฐกิจของไทยและสุขภาพประชาชน โดยสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ร่วมกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมควบคุมมลพิษ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยศิลปากร 

การดำเนินการดังกล่าวภายใต้นโยบาย รัฐมนตรีกระทรวง อว. ทำให้ประเทศไทยไทยก้าวสู่ผู้นำอาเซียนด้านการจัดการขยะทะเล นอกจากบทบาทด้านเทคโนโลยีปรมาณูเพื่อสันติ ไทยยังมีบทบาทนำในระดับภูมิภาคในการจัดทำ “ปฏิญญากรุงเทพฯ ว่าด้วยการต่อต้านขยะทะเลในอาเซียน” ซึ่งเป็นกรอบความร่วมมือสำคัญในการลดขยะทะเลของภูมิภาค

ผู้เข้าร่วมประชุมจากประเทศไทยประกอบด้วยผู้แทนจากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ มหาวิทยาลัยศิลปากร และสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ

โดยหัวหน้าคณะผู้แทนไทย ได้กล่าวเน้นย้ำในเวทีโลกว่า ประเทศไทยพร้อมสนับสนุนและผลักดันการดำเนินงานภายใต้ NUTEC Plastics Initiative อย่างต่อเนื่อง เพราะเชื่อมั่นว่าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีปรมาณูเพื่อสันติสามารถช่วยแก้ปัญหาพลาสติกได้ครบวงจร ตั้งแต่การรีไซเคิลไปจนถึงการติดตามมลพิษทางทะเล นำไปสู่เป้าหมาย “สิ่งแวดล้อมสะอาด ปราศจากมลพิษ ประชาชนสุขภาพดีปลอดภัยอย่างยั่งยืน


วธ. จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เเละนำชมนิทรรศการภาพจิตรกรรมฝาผนัง ระเบียงพระอุโบสถ อุทิศถวายพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ

 วธ. จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เเละนำชมนิทรรศการภาพจิตรกรรมฝาผนัง ระเบียงพระอุโบสถ อุทิศถวายพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ



วันศุกร์ที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๖๘ เวลา ๑๐.๐๐ น. กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนาจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์และกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์และการเรียนรู้การนำชมนิทรรศการภาพจิตรกรรมฝาผนัง ระเบียงพระอุโบสถ อุทิศถวายพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ โดยมีพระเทพวชิรสุนทร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก เป็นประธานฝ่ายสงฆ์  นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม 




มอบหมายให้ นายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยหม่อมหลวง

จิรพันธุ์ ทวีวงศ์ กรรมการและรองเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม ข้าราชการ เจ้าหน้าที่กรมการศาสนา และประชาชนเข้าร่วมพิธี ณ วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร



นายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา ร่วมกับมูลนิธิชัยพัฒนา วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษกและภาคีเครือข่าย จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์และกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์และการเรียนรู้นำชมนิทรรศการภาพจิตรกรรมฝาผนัง ระเบียงพระอุโบสถ อุทิศถวายพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ ๕ ธันวาคม ณ พระอุโบสถวัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 


วันที่ ๕ ธันวาคม ของทุกๆปี รัฐบาลได้กำหนดให้เป็นวันพ่อแห่งชาติ ถือเป็นวันที่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับพสกนิกรชาวไทย เนื่องจากเป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านแล้ว ยังเป็นการยกย่องบทบาทของ “พ่อ” ในฐานะผู้นำครอบครัว ผู้เสียสละ ดูแล คนในครอบครัวให้เป็นคนดีของสังคม รวมถึงยังเป็นการปลูกฝังความกตัญญูให้บุตรหลานได้แสดงความรักและระลึกถึงพระคุณของบิดา ดอกไม้สัญลักษณ์ของวันนี้ คือ ดอกพุทธรักษา ซึ่งมีสีเหลืองตรงกับสีวันพระบรมราชสมภพของพระองค์ (วันจันทร์) อีกทั้งในอดีตวันชาติของประเทศไทย ตรงกับวันที่ ๒๔ มิถุนายน เพื่อระลึกถึงการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองจากระบอบ สมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข แต่ต่อมาใน พ.ศ. ๒๕๐๓ วันชาติ ได้เปลี่ยนมาเป็นวันที่ ๕ ธันวาคมของทุกปี เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร



ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวต่อว่าสำหรับการจัดงานในครั้งนี้ ส่วนกลาง ร่วมกับมูลนิธิชัยพัฒนา วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษกและภาคีเครือข่าย จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์และกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์และการเรียนรู้การนำชมนิทรรศการภาพจิตรกรรมฝาผนัง ระเบียงพระอุโบสถ อุทิศถวายพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร กิจกรรมประกอบด้วย พิธีตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง , พิธีเจริญพระพุทธมนต์ สดัปกรณ์ (พิธีการทอดผ้าบังสุกุล) ถวายพระราชกุศล  พิธีมอบเกียรติบัตรการประกวดสวดมนต์ ทำนองสรภัญญะ การปั่นจักรยาเฉลิมพระเกียรติ 

จากวัดที่พ่อสร้าง ถึง วังที่พ่อทรงงาน” และมีกิจกรรมชมนิทรรศการภาพจิตรกรรมฝาผนังระเบียงพระอุโบสถเพื่อให้พุทธศาสนิกชนและประชาชนทั่วไป ร่วมเยี่ยมชม จิตรกรรมฝาผนังระเบียงพระอุโบสถ วัดพระราม ๙

กาญจนาภิเษก เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร ผลงานศิลปกรรมอันทรงคุณค่าที่สร้างขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และเพื่อสืบสานพระราชปณิธานด้านศิลปวัฒนธรรมและศาสนา ผ่านแนวคิด “ศาสตร์แห่งพระราชา” ถ่ายทอดสู่ศิลปะไทยร่วมสมัยที่งดงามและทรงคุณค่า ซึ่งวัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก เป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ พระราชทานนามและเสด็จพระราชดำเนินทรงวางศิลาฤกษ์ด้วยพระองค์เองเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๒ จึงนับเป็นวัดที่มีความผูกพันอย่างลึกซึ้งกับพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่เคารพรักของปวงชนชาวไทย การจัดสร้างจิตรกรรมฝาผนังในครั้งนี้ จึงมีความหมายยิ่งในเชิงประวัติศาสตร์และจิตวิญญาณ เพราะเป็นการถ่ายทอดเรื่องราวของพระราชจริยวัตร พระราชกรณียกิจ และโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริกว่า ๔,๐๐๐ โครงการ อันสะท้อนพระอัจฉริยภาพและพระมหากรุณาธิคุณต่อปวงชนชาวไทย สำหรับส่วนภูมิภาค ร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดทั่วประเทศจัดกิจกรรมถวายพระราชกุศล พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันนวมินทรมหาราช และวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ ๕ ธันวาคม 

และจัดกิจกรรมตามวันเวลาและสถานที่ตามความเหมาะสมในพื้นที่ อาทิ กิจกรรมพิธีทำบุญ ตักบาตรพระสงฆ์ กิจกรรมเจริญพระพุทธมนต์หรือปฏิบัติธรรมถวายพระราชกุศลฯ กิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ การจัดนิทรรศการหรือจัดทำวีดิทัศน์น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ และกิจกรรมเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์



ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวทิ้งท้ายว่า ตลอดรัชสมัยของพระองค์ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ ทรงอุทิศพระองค์เพื่อประโยชน์สุขของราษฎร ทุกหนทุกแห่งบนผืนแผ่นดินไทยที่รอยพระบาทได้ประทับลง เป็นไปเพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ของอาณาประชาราษฎร์ และพัฒนาประเทศชาติให้เจริญรุ่งเรือง จึงขอเชิญชวนพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ร่วมกันทำความดีถวายพระราชกุศล อันเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดี และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ที่พระองค์ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อให้ประชาชนของพระองค์มีความอยู่ดีกินดี มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อีกทั้งเป็นการส่งเสริมให้ศาสนิกชนทุกคนได้ร่วมรำลึกถึงพระบรมราโชวาท น้อมนำมาปรับใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน มีจิตอาสาเสียสละ มุ่งประโยชน์ส่วนรวม ช่วยเหลือกันและกัน อยู่ร่วมกันอย่างสามัคคี ///


วันพฤหัสบดีที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2568

DMT เข้ารับรางวัลองค์กรที่ส่งเสริมการจ้างงานคนพิการ ประจำปี 2568

 DMT เข้ารับรางวัลองค์กรที่ส่งเสริมการจ้างงานคนพิการ ประจำปี 2568

บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน)  (DMT)  เข้ารับประกาศเกียรติคุณรางวัล  “องค์กรที่ส่งเสริมการจ้างงานคนพิการ ประจำปี 2568  “ ระดับดี ”  จากกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ร่วมกับสมาคมคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย  องค์กรคนพิการแต่ละประเภท  และภาคีเครือข่าย ทุกภาคส่วน  ซึ่งจัดขึ้นในงานวันคนพิการสากล  ประจำปี  2568  เมื่อวันที่  3  ธันวาคม  2568  ณ ห้องรอยัล จูบิลี บอลรูม อิมแพ็ค เมืองทองธานี  จังหวัดนนทบุรี

ในการนี้ นางสาวรำไพ ชมภู่ (ขวา) ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรมนุษย์และระบบบริหารงานคุณภาพ เป็นผู้แทนบริษัทฯ เข้ารับมอบรางวัลจาก นางสาวสนธยา บุณยภูษิต (ซ้าย) อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ

รางวัลอันทรงเกียรตินี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ DMT ในการมอบโอกาสและสนับสนุนการจ้างงานคนพิการอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวทางการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์อย่างเท่าเทียม


ตัวช่วยเกษตรกรไทย เชอร์วู้ด คอร์ปอเรชั่น ลงนาม AGLUKON นำเข้า “Wuxal” นวัตกรรมเยอรมันเพิ่มคุณภาพเพิ่มผลผลิตตอบโจทย์พืชเศรษฐกิจไทย

 ตัวช่วยเกษตรกรไทย เชอร์วู้ด คอร์ปอเรชั่น ลงนาม AGLUKON นำเข้า “Wuxal” นวัตกรรมเยอรมันเพิ่มคุณภาพเพิ่มผลผลิตตอบโจทย์พืชเศรษฐกิจไทย

ฉลามยิ้ม”แบรนด์สินค้าเกษตรภายใต้ บมจ.เชอร์วู้ด คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) หรือ SWC ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อุปโภค-บริโภคในครัวเรือนและและสินค้าเคมีเกษตร ลงนามความร่วมมือกับ AGLUKON Spezialdünger GmbH & Co. KG ประเทศเยอรมนี ผู้เชี่ยวชาญด้านสารกระตุ้นการเจริญเติบโตของพืช ปุ๋ยเหลว และปุ๋ยเหลวข้นระดับพรีเมียม เพื่อเป็นตัวแทนจำหน่ายแบรนด์ชั้นนำระดับโลก “Wuxal” อย่างเป็นทางการในประเทศไทย มั่นใจนวัตกรรมเยอรมันสามารถช่วยเพิ่มคุณภาพเพิ่มผลผลิต ตอบโจทย์พืชเศรษฐกิจไทย และสร้างความยั่งยืนให้กับเกษตรกรไทยในอนาคต 

บมจ.เชอร์วู้ด คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เคมีเกษตรภายใต้แบรนด์ “ฉลามยิ้ม” โดย นายแพทย์ณรงค์ฤทธิ์ ตั้งคารวคุณ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แถลงว่าการลงนามพันธมิตรร่วมกับ Mr. Andreas Theisen Key Account Manager APAC ตัวแทนจาก AGLUKON Spezialdünger GmbH & Co. KG เพื่อเป็นตัวแทนจำหน่าย “Wuxal” นับเป็นก้าวสำคัญที่เกษตรกรไทยจะได้มีโอกาสสัมผัสผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงจากเทคโนโลยีเยอรมนี ที่ขึ้นชื่อเรื่องประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความเสถียรในการให้ธาตุอาหารพืช ตอบโจทย์ความต้องการของเกษตรกรไทยในยุคเกษตรสมัยใหม่อย่างแท้จริง รวมถึงผลักดันเกษตรไทยสู่ความยั่งยืน ลดการใช้สารเคมี พร้อมยกระดับคุณภาพผลผลิตให้เกษตรกรทั่วประเทศ

โดยเฉพาะนวัตกรรม “สารกระตุ้นการเจริญเติบโตของพืช” (Biostimulant) เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมในหลายประเทศ เนื่องจากมีคุณสมบัติช่วยให้พืชทนต่อสภาวะเครียด เพิ่มการเจริญเติบโต และปรับปรุงคุณภาพผลผลิต ทั้งยังมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อย เพราะส่วนใหญ่ผลิตจากสารธรรมชาติสอดคล้องกับแนวโน้มการทำเกษตรอย่างปลอดภัย

นายแพทย์ณรงค์ฤทธิ์ เผยว่า “เชอร์วู้ดฯ มุ่งมั่นในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานสากล เพื่อช่วยเพิ่มผลผลิตให้เกษตรกรไทย และมีความเชื่อมั่นว่าสารกระตุ้นการเจริญเติบโตของพืชและปุ๋ยเหลว และปุ๋ยเหลวข้นระดับพรีเมียม ภายใต้แบรนด์ Wuxal จะได้รับความสนใจจากเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง และมีส่วนช่วยยกระดับความยั่งยืนของภาคการเกษตรไทยในอนาคต

ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ Wuxal โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีการผลิตเฉพาะด้านของเยอรมนี เหมาะสำหรับพืชเศรษฐกิจสำคัญของไทย เช่น ทุเรียน ข้าว มันสำปะหลัง ส้ม มะม่วง และพืชผักหลากชนิด ทั้งยังช่วยเพิ่มคุณภาพผลผลิต ทนต่อสภาวะแวดล้อม และเสริมสุขภาพพืชให้แข็งแรง โดยความร่วมมือนี้จะเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนสำคัญในการเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านสินค้าเกษตรคุณภาพในประเทศไทย


กรมทรัพย์สินทางปัญญา น้อมรำลึกถึง “ในหลวงรัชกาลที่ 9”อัครศิลปินผู้เป็นต้นแบบในการสร้างสรรค์งานลิขสิทธิ์อันทรงคุณค่า​ พร้อมเชิญชวนคนรุ่นใหม่ใช้ประโยชน์จากบริการแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์ออนไลน์ของกรมฯ

 กรมทรัพย์สินทางปัญญา น้อมรำลึกถึง “ในหลวงรัชกาลที่ 9”อัครศิลปินผู้เป็นต้นแบบในการสร้างสรรค์งานลิขสิทธิ์อันทรงคุณค่า​  พร้อมเชิญชวนคนรุ่นใหม่ใช้ประโยชน์จากบริการแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์ออนไลน์ของกรมฯ

เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันที่ 5 ธันวาคม 2568 กรมทรัพย์สินทางปัญญาขอน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณและพระปรีชาสามารถรอบด้านของพระองค์ โดยเฉพาะในบทบาทของ “อัครศิลปิน” ผู้ทรงสร้างสรรค์ผลงานศิลปะอันทรงคุณค่า ทั้งในด้านดนตรี ภาพวาด ภาพถ่าย และงานสร้างสรรค์แขนงต่างๆนำมาซึ่งความสุขและแรงบันดาลใจให้กับประชาชนชาวไทยตราบนานเท่านาน

 




นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร ทรงให้ความสำคัญกับเรื่อง “ทรัพย์สินทางปัญญา” เป็นอย่างมาก ทรงเป็นแรงบันดาลใจให้ศิลปิน นักประดิษฐ์ และนักสร้างสรรค์รุ่นใหม่ตระหนักถึงคุณค่าของการใช้ความคิดสร้างสรรค์อย่างถูกต้องและมีความรับผิดชอบ ตลอดจนเห็นความสำคัญของการปกป้องสิทธิในผลงานของตนเอง ทั้งนี้ พระองค์ทรงมีพระอัจฉริยภาพด้านการสร้างสรรค์ผลงานทรัพย์สินทางปัญญาหลากหลายประเภท รวมมากกว่า 90 ผลงาน ทั้งสิทธิบัตรการประดิษฐ์ อนุสิทธิบัตร สิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ เครื่องหมายการค้า และลิขสิทธิ์ โดยเฉพาะผลงานลิขสิทธิ์ที่มีกว่า 70 ผลงาน ไม่ว่าจะเป็นบทเพลงพระราชนิพนธ์ อาทิ แสงเทียน ยามเย็น ใกล้รุ่ง สายฝน พรปีใหม่ ความฝันอันสูงสุด ชะตาชีวิต เราสู้ เป็นต้น ซึ่งหลายบทเพลงกลายเป็นผลงานระดับสากลที่ได้รับการขับร้องและบรรเลงทั่วโลก หนังสือพระราชนิพนธ์ อาทิ พระมหาชนก ที่ถ่ายทอดเรื่องความเพียรพยายามฝ่าฟันอุปสรรคให้เป็นเครื่องเตือนใจประชาชน เป็นต้น รวมทั้งผลงานภาพวาดและภาพถ่ายฝีพระหัตถ์อีกเป็นจำนวนมาก ตลอดจนงานศิลปะอื่นๆ ที่ทรงสร้างสรรค์เมื่อว่างเว้นจากพระราชภารกิจ สะท้อนพระราชปณิธานอันแน่วแน่ในการผลักดันผลงานสร้างสรรค์ให้เป็นทรัพย์สินอันมีค่าที่ควรได้รับการคุ้มครองและส่งเสริมให้เกิดการสร้างสรรค์อย่างต่อเนื่อง

 

นางอรมน กล่าวว่า ในโอกาสนี้กรมทรัพย์สินทางปัญญาจึงขอเชิญชวนประชาชน ศิลปิน นักสร้างสรรค์ และผู้ประกอบการ ร่วมกันสืบสานแนวทางของในหลวงรัชกาลที่ 9 ในการให้คุณค่ากับเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา พร้อมสร้างสังคมที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ให้กลายเป็นมูลค่าขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ผ่านการนำผลงานลิขสิทธิ์ที่สร้างสรรค์ขึ้นมายื่นแจ้งข้อมูลไว้กับกรมฯ เพื่อต่อยอดการใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ได้อย่างเต็มศักยภาพต่อไป โดยปัจจุบันกรมฯ ได้ยกระดับบริการรับแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์ทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยปรับปรุงระบบใหม่ ปรับลดขั้นตอนให้สะดวกรวดเร็ว ใช้งานง่าย และตอบโจทย์การให้บริการในยุคดิจิทัล ซึ่งผู้แจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์สามารถยื่นแจ้งข้อมูลได้ด้วยตนเอง ผ่านทางเว็บไซต์กรมทรัพย์สินทางปัญญา www.ipthailand.go.th หรือแอปพลิเคชัน DIP e-Service โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางมาที่กรมฯ ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย โดยมีขั้นตอนง่ายๆ เพียงเข้าสู่ระบบและยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชัน ThaID ก็จะสามารถส่งคำขอแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์ได้ทุกที่ทุกเวลา พร้อมติดตามสถานะการยื่นแจ้งฯ และตรวจสอบประวัติการทำรายการผ่านระบบดังกล่าวได้ทุกเมื่อ ซึ่งเมื่อคำขอได้รับการอนุมัติ

ผู้แจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์จะได้รับหนังสือแสดงการแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์ในรูปแบบเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างสะดวกรวดเร็วอีกด้วย

 

จากสถิติการยื่นคำขอแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์ออนไลน์ ตั้งแต่เปิดระบบเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2568 ถึงปัจจุบัน มีจำนวนคำขอที่ยื่นผ่านช่องทางดังกล่าวมากถึง 6,196 คำขอ (คิดเป็น 96.7% ของคำขอแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์ทั้งหมด) ส่วนใหญ่เป็นผลงานลิขสิทธิ์ประเภทศิลปกรรม (จิตรกรรม ประติมากรรม ภาพพิมพ์ ฯลฯ) วรรณกรรม (งานนิพนธ์ โปรแกรมคอมพิวเตอร์) ดนตรีกรรม โสตทัศนวัสดุ (ภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์) และสิ่งบันทึกเสียง สะท้อนให้เห็นว่าผู้สร้างสรรค์ตระหนักถึงความสำคัญของเรื่องลิขสิทธิ์และมองเห็นโอกาสในการสร้างรายได้จากงานลิขสิทธิ์ในรูปแบบต่างๆ อีกทั้งยังชี้ให้เห็นว่าระบบดังกล่าวช่วยอำนวยความสะดวกและตอบโจทย์การใช้งานของผู้ใช้บริการได้เป็นอย่างดี

 


ทั้งนี้ แม้ว่างานลิขสิทธิ์จะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายทันทีที่สร้างสรรค์ โดยไม่จำเป็นต้องจดทะเบียน แต่การยื่นแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์ไว้กับกรมฯ จะสามารถใช้เป็นหลักฐานเบื้องต้นในการอ้างอิงความเป็นเจ้าของงานลิขสิทธิ์ในกรณีที่เกิดข้อพิพาทหรือมีการดำเนินคดีกับผู้ละเมิด อีกทั้งยังเป็นฐานข้อมูลให้กับผู้ที่ต้องการใช้ประโยชน์จากผลงานลิขสิทธิ์ สามารถสืบค้นข้อมูลเพื่อติดต่อเจ้าของผลงานและขออนุญาตใช้ลิขสิทธิ์ได้ง่ายขึ้น โดยผู้สนใจสามารถแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์ผ่านระบบออนไลน์ของกรมฯ ทางเว็บไซต์ www.ipthailand.go.th หรือแอปพลิเคชัน DIP e-Service โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่สายด่วนกรมทรัพย์สินทางปัญญา โทร.1368

 

-----------------------

“มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เสริมทัพทีมบรรเทาฯ-สังคมสงเคราะห์ ล่องใต้เข้าพื้นที่น้ำท่วม เร่งส่งต่อธารน้ำใจ สู้มหาอุทกภัยภาคใต้” ยกทัพเครื่องอุปโภคบริโภคบรรทุกรถเทรลเลอร์ และรถบรรทุกมูลนิธิฯ บรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยจังหวัดสงขลา พัทลุง และจังหวัดอื่นๆ ต่อเนื่อง

  “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เสริมทัพทีมบรรเทาฯ-สังคมสงเคราะห์ ล่องใต้เข้าพื้นที่น้ำท่วม เร่งส่งต่อธารน้ำใจ สู้มหาอุทกภัยภาคใต้” ยกทัพเครื่องอุปโภคบริโภคบรรทุกรถเทรลเลอร์ และรถบรรทุกมูลนิธิฯ บรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยจังหวัดสงขลา พัทลุง และจังหวัดอื่นๆ ต่อเนื่อง





มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการ พร้อมด้วย คณะกรรมการมูลนิธิฯ ห่วงใยผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ในหลายจังหวัด มอบหมายนายอรัณย์ โตทวด ผู้จัดการใหญ่มูลนิธิฯ เร่งกระจายทีมบรรเทาสาธารณภัย และทีมสังคมสงเคราะห์ ยกทัพเครื่องอุปโภคบริโภคที่ผู้มีจิตศรัทธาได้ร่วมบริจาค บรรทุกรถเทรลเลอร์ พร้อมรถบรรทุกมูลนิธิฯ ออกเดินทางจากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชยมุ่งสู่ภาคใต้ต่อเนื่อง เพื่อมอบให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ในทันที โดยมี สมาคม/มูลนิธิแต่ละจังหวัด เป็นผู้ประสานงานและร่วมแจกจ่าย 






โดยวันนี้ (วันพฤหัสบดีที่ 4 ธันวาคม พ.ศ.2568) นายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัย นำทีมแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ แผนกสาธารณภัย ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ และแผนกบรรเทาสาธารณภัย  (คาราวานป่อเต็กตึ๊ง ส่งต่อธารน้ำใจ สาย 2) ยกทัพเครื่องอุปโภคบริโภคบรรทุกรถเทรลเลอร์ และรถบรรทุกมูลนิธิฯ ลงพื้นที่จังหวัดพัทลุง แจกจ่ายให้แก่ผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่ ตำบลลำปำ และตำบลชัยบุรี อำเภอเมือง, ตำบลพนางตุง อำเภอควนขนุน รวมจำนวน 1,000 ชุด ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ติดชายทะเล และยังคงประสบอุทกภัยในขณะนี้ โดยมี พัทลุงการกุศลมูลนิธิ (ซ่งเต็กเซี่ยงตึ๊ง) เป็นผู้ประสานงาน ร่วมแจกจ่าย รวมทั้งนำทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัย และจิตอาสาจากโรงเรียนเทศบาลจุ่งฮั่ว พัทลุง ร่วมแพ็กถุงยังชีพ 








สำหรับการแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคในพื้นที่จังหวัดสงขลา นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นำทีมสังคมสงเคราะห์ พร้อมทีมบรรเทาสาธารณภัย ฝ่ายปฏิบัติการ  (คาราวานป่อเต็กตึ๊ง ส่งต่อธารน้ำใจ สาย 1) ได้ยกทัพเครื่องอุปโภคบริโภคบรรทุกรถเทรลเลอร์ 4 คัน ลงพื้นที่ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา โดยได้เร่งแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับผู้ประสบภัยในพื้นที่ อาทิ ตำบลหาดใหญ่ ตำบลบ้านไร่ ตำบลควนลัง ตำบลระโนด จังหวัดสงขลา แล้วกว่า 2,900 ชุด



โดยขณะนี้ คาราวานป่อเต็กตึ๊ง ส่งต่อธารน้ำใจ ทั้ง 2 สาย ยังคงลุยแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคใต้ พร้อมเฝ้าติดตามสถานการณ์อุทกภัยภาคใต้อย่างต่อเนื่อง เพื่อประเมินและเข้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้านต่าง ๆ ต่อไป  อัปเดตข่าวสาร กิจกรรม การช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่ เฟซบุ๊ก แฟนเพจwww.facebook.com/atpohtecktung หรือดูรายละเอียดช่องทางที่สะดวกได้ที่ https://linktr.ee/pohtecktung




นับตั้งแต่เกิดเหตุอุทกภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ส่งทีมกู้ภัย กู้ชีพ อาสาสมัคร พร้อมอุปกรณ์ตอบโต้ภัยพิบัติ โรงครัวเคลื่อนที่ ถุงยังชีพฉุกเฉินและเสื้อชูชีพ น้ำดื่ม ชุดยาสามัญประจำบ้าน อาหารสุนัขและแมว ลงพื้นที่หาดใหญ่หาดใหญ่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ทันที ทั้งการอพยพทั้งประชาชน และสัตว์ ออกพื้นที่ประสบภัยไปยังพื้นที่ปลอดภัย รวมถึงเคลื่อนย้ายผู้ป่วยผู้บาดเจ็บไปยังโรงพยาบาลต่างๆ และเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตนำส่งโรงพยาบาลในพื้นที่ โดยมูลนิธิฯ ตั้งกองอำนวยการฯ ประสานงานรับแจ้งเหตุและช่วยเหลือ และจัดตั้งโรงครัวเคลื่อนที่ประกอบอาหารปรุงสุกบรรจุกล่องออกแจกจ่ายพร้อมน้ำดื่ม พร้อมนำถุงยังชีพฉุกเฉินบรรจุสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นและเครื่องอุปโภคบริโภคให้แก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่



มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง  ขอขอบพระคุณผู้มีจิตศรัทธาที่ร่วมบริจาคทรัพย์ เครื่องอุปโภคบริโภค สละแรงกาย แรงใจ  สมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยต่าง ๆ  ทั้งที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ และที่กองอำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ ขอบุญบารมีหลวงปู่ไต้ฮง ส่งผลให้ท่านและครอบครัว มีความสุขความเจริญตลอดไป

.

สำหรับผู้มีจิตศรัทธาที่มีความประสงค์จะบริจาคสมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ติดต่อสอบถามได้ที่สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง 1418 ต่อ แผนกบริจาคสัมพันธ์  **  การช่วยเหลือมูลนิธิฯ จะไม่มีการเรียกค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น รวมทั้งมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ตั้งอยู่ที่พลับพลาไชย ตรงเยาวราช ไม่มีสาขาที่ใด และไม่มีนโยบายส่งเจ้าหน้าที่ออกไปเดินเรี่ยไรตามบ้านหรือสถานที่อื่นๆ กรุณาอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง ยกเว้นจะมีการแจ้งให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งไปรับบริจาคเท่านั้น **

.

## มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต #

ครอบครัวพิสุทธิ์ศักดิ์ รู้สึกซาบซึ้งต่อการดูแลของ ออดี้ไทยแลนด์

  ครอบครัวพิสุทธิ์ศักดิ์ รู้สึกซาบซึ้งต่อการดูแลของ ออดี้ไทยแลนด์ พลตำรวจโทพิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ อดีตผู้ช่วย ผบ.ตร.  ฝากขอบคุณ คุณธีรคุปต์ ...