วันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2568

กรมทะเล จัดงานวันอนุรักษ์พะยูนแห่งชาติ 2568 ชูแนวคิด “รักษ์พะยูนคืนถิ่นเลตรัง” รวมพลังทุกภาคส่วนฟื้นฟูหญ้าทะเล ต้อนรับพะยูนกลับบ้าน

 กรมทะเล จัดงานวันอนุรักษ์พะยูนแห่งชาติ 2568 ชูแนวคิด “รักษ์พะยูนคืนถิ่นเลตรัง” รวมพลังทุกภาคส่วนฟื้นฟูหญ้าทะเล ต้อนรับพะยูนกลับบ้าน



วันที่ 17 สิงหาคม 2568 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดงาน “วันอนุรักษ์พะยูนแห่งชาติ ประจำปี 2568” ภายใต้แนวคิด “รักษ์พะยูนคืนถิ่นเลตรัง” เป็นการต้อนรับพะยูนกลับบ้านอย่างอบอุ่น หลังจากที่พะยูนได้อพยพออกจากจังหวัดตรังซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยสำคัญ เพราะแหล่งหญ้าทะเลเสื่อมโทรมลงอย่างรุนแรงจากปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่ในการสำรวจครั้งล่าสุดพบแหล่งหญ้าทะเลกลับมาฟื้นฟู ทำให้เหล่าพะยูนเริ่มกลับมายังจังหวัดตรังอีกครั้ง ซึ่งเป็นผลมาจากการขับเคลื่อนงานด้านอนุรักษ์พะยูนและหญ้าทะเลในพื้นที่ต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ และบูรณาการร่วมกันของหน่วยงาน องค์กร ชุมชน และประชาชนในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยการจัดงานในครั้งนี้ เน้นรูปแบบ “Green Event” ลดขยะ งดโฟม และลดบรรจุภัณฑ์ใช้แล้วทิ้งจำพวกพลาสติกให้ได้มากที่สุด มีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีนารีรัตนราชกัญญา ภายใต้โครงการอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทยในพระดำริ รวมถึงเสริมสร้างจิตสำนึกและความเข้าใจในการอนุรักษ์หญ้าทะเลและพะยูนแก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและบุคคลทั่วไป พร้อมผลักดันให้เกิดความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมและร่วมกันรับผิดชอบในการอนุรักษ์พะยูนและระบบนิเวศหญ้าทะเล ในการนี้มี พันจ่าโท อนันต์ บุญสำราญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานเปิดงาน และมีนายอุกกฤต สตภูมินทร์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นักเรียน และประชาชนในพื้นที่ เข้าร่วมงาน ณ หอประชุมจังหวัดตรัง อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง โดยภายในงานมีกิจกรรมเดินขบวนรณรงค์วันอนุรักษ์พะยูนแห่งชาติ การประกวดวาดภาพระบายสี ในหัวข้อ "HUG you Dugong" การเสวนาวิชาการ อีกทั้งยังมีการจัดแสดงนิทรรศการให้ความรู้จากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษาอีกด้วย





ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า วันที่ 17 สิงหาคม ของทุกปี เป็นวันอนุรักษ์พะยูนแห่งชาติ เนื่องจากตรงกับวันที่พะยูน “มาเรียม” เสียชีวิต เพื่อเป็นการระลึกถึงและให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของพะยูนที่มีต่อระบบนิเวศชายฝั่งทะเล เกิดกระแสตื่นตัวต่อการอนุรักษ์พะยูนและสัตว์ทะเลหายากในประเทศไทย และร่วมกันดำเนินการเพื่อแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมทางทะเล โดยพะยูนเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเล และเป็นสัตว์ป่าสงวนตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 จากข้อมูลสถานภาพพะยูนในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2568 พบพะยูนประมาณ 129 ตัว โดยเป็นประชากรพะยูนในพื้นที่ฝั่งทะเลอันดามัน 114 ตัว และอยู่ในจังหวัดตรังถึง 52 ตัว เพราะมีพื้นที่แหล่งหญ้าทะเลที่เป็นอาหารและแหล่งอาศัยใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ปัจจุบันพะยูนมีแนวโน้มที่จะลดลง และจากการประเมินของสหภาพสากลว่าด้วยการอนุรักษ์ (IUCN) พบว่าพะยูนถูกจัดให้อยู่ในสภาวะเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์ ดังนั้น กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จึงได้พยายามยกระดับและเร่งรัดผลักดันงานด้านการอนุรักษ์พะยูนให้เพิ่มจำนวนและคงอยู่อย่างสมดุลและยั่งยืน โดยกำหนดมาตรการเชิงรุกเร่งด่วน 4 ด้านหลัก ได้แก่ 1.ฟื้นฟูและคุ้มครองแหล่งหญ้าทะเลอย่างเข้มข้นโดยเฉพาะในพื้นที่ที่พบพะยูนชุกชุมและมีปัญหาความเสื่อมโทรม 2.ควบคุมกิจกรรมของมนุษย์ เช่น การกำหนดเขตจำกัดความเร็วเรือในแหล่งหญ้าทะเล และลดความเสี่ยงจากเครื่องมือประมง 3.ยกระดับระบบเฝ้าระวังและการช่วยเหลือพะยูนเกยตื้นให้ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น 4.เฝ้าระวังโรคและปัจจัยด้านสุขภาพของพะยูน โดยสนับสนุนการตรวจวินิจฉัยโรค สารพิษ และมลภาวะในแหล่งอาศัย รวมถึงพัฒนาอาหารทดแทนสำหรับพะยูนในภาวะขาดแคลนอาหาร










ตลอดการดำเนินงานที่ผ่านมา หน่วยงานและภาคส่วนต่าง ๆ ได้สนับสนุนและร่วมมือกันทำงานเกี่ยวกับการอนุรักษ์พะยูนอย่างใกล้ชิดมากขึ้น โดยการมีส่วนร่วมจากชุมชน เครือข่ายอนุรักษ์ อาสาสมัคร และภาคส่วนต่าง ๆ มีการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับการสร้างจิตสำนึกกับกลุ่มเป้าหมายรวมถึงเยาวชน และโรงเรียนในพื้นที่ที่อยู่ติดชายทะเลให้เห็นความสำคัญ ทำให้มีแนวทางบริหารจัดการอนุรักษ์พะยูนและถิ่นอาศัยอย่างชัดเจน และมีความก้าวหน้าเป็นรูปธรรม เพราะการอนุรักษ์และดูแลพะยูน ไม่ใช่เพียงเรื่องของภาครัฐหรือจังหวัดตรังเท่านั้น แต่เป็นเรื่องที่พวกเราทุกคนต้องช่วยกัน ไม่กระทำการที่ส่งผลกระทบต่อพะยูนไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม การที่พะยูนกลับคืนถิ่น คือสัญญาณว่าธรรมชาติกำลังตอบรับความพยายามของมนุษย์ หากเรายังร่วมมือกันอย่างต่อเนื่อง วันหนึ่งลูกหลานของเราจะไม่ต้องมองหาพะยูนในหนังสือเรียน แต่จะได้เห็นพะยูนในธรรมชาติด้วยสายตาของตัวเอง” ดร.ปิ่นสักก์ กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

“รองนายกฯ ประเสริฐ” สั่งใช้ศูนย์ส่วนหน้าฯ รับมือฝนถล่มภาคตะวันออกกำชับหน่วยงานเร่งซ่อมคันกันน้ำสุโขทัย - แม่สาย ให้แล้วเสร็จทุกจุดโดยเร็ว

  “รองนายกฯ ประเสริฐ” สั่งใช้ศูนย์ส่วนหน้าฯ รับมือฝนถล่มภาคตะวันออกกำชับหน่วยงานเร่งซ่อมคันกันน้ำสุโขทัย - แม่สาย ให้แล้วเสร็จทุกจุดโดยเร็ว ...