วันพุธที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2568

“รองนายกฯ ประเสริฐ” สั่งทุกหน่วยเตรียมรับมือน้ำทะเลหนุนสูง 7 – 13 ส.ค. นี้พื้นที่ กทม. ระดับน้ำยังปกติและเสริมคันกั้นน้ำไว้พร้อม ยืนยันไม่ได้รับผลกระทบแน่นอน

 “รองนายกฯ ประเสริฐ” สั่งทุกหน่วยเตรียมรับมือน้ำทะเลหนุนสูง 7 – 13 ส.ค. นี้พื้นที่ กทม. ระดับน้ำยังปกติและเสริมคันกั้นน้ำไว้พร้อม ยืนยันไม่ได้รับผลกระทบแน่นอน  

วันนี้ (6 สิงหาคม 2568) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) เปิดเผยว่า รัฐบาลได้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อบริหารจัดการน้ำช่วยป้องกันและลดผลกระทบจากอุทกภัยในช่วงฤดูฝนนี้ต่อพี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ 

โดยล่าสุดได้รับทราบข้อมูลคาดการณ์น้ำทะเลหนุนสูงบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา ระหว่างวันที่ 7 – 13 สิงหาคม 2568 ในช่วงเวลาประมาณ 18.00 – 21.00 น. อาจส่งผลให้ระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้า จังหวัดสมุทรปราการ และพื้นที่ใกล้เคียง 

เพิ่มสูงขึ้นถึงประมาณ 1.7 – 2 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำวิกฤติประมาณ 0.3 เมตร นอกจากนี้ อิทธิพลของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังอ่อนจะส่งผลให้มีฝนตกในบางพื้นที่ ซึ่งทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น จึงคาดว่าในช่วงเวลาดังกล่าว

อาจมีน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง รวมถึงชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำ

และแนวเขื่อนชั่วคราวบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร (แนวฟันหลอ) บริเวณจังหวัดสมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี สมุทรสาคร นครปฐม และสมุทรสงคราม จึงได้สั่งการให้ สทนช. ประสานกับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมปรับแผนบริหารจัดการน้ำอ่างเก็บน้ำ เขื่อนระบายน้ำ และประตูระบายน้ำ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ พร้อมทั้งตรวจสอบความมั่นคงของอาคารป้องกันริมแม่น้ำและเสริมคันบริเวณจุดเสี่ยงบริเวณที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ และเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ ให้มีความพร้อมในการเข้าช่วยเหลือประชาชนได้ทันที รวมทั้งต้องประชาสัมพันธ์ข้อมูลและแจ้งเตือนผู้อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบดังกล่าวได้รับทราบล่วงหน้า เพื่อเตรียมพร้อมรับมือและลดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินให้ได้มากที่สุด


ในส่วนของสถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปัจจุบันระดับน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยายังคงอยู่ในเกณฑ์ปกติ โดยที่สถานี C.2 อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,161 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวินาที ขณะที่สถานี C.13 

เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 700 ลบ.ม. ต่อวินาที โดยศักยภาพของแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณกรุงเทพมหานครสามารถรองรับน้ำได้ถึงประมาณ 2,500 - 3,000 ลบ.ม. ต่อวินาที ซึ่งขณะนี้ที่สถานีสูบน้ำปากคลองตลาด ยังคงมีระดับน้ำต่ำกว่าระดับทะเลปานกลาง ประมาณ 0.45 เมตร และต่ำกว่าระดับเตือนภัย 2.75 เมตร ประกอบกับตั้งแต่หลังเหตุการณ์อุทกภัยเมื่อปี 2554 

ได้มีการเสริมความสูงของคันป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพิ่มขึ้นอีกราว 20 – 50 เซนติเมตร 

ดังนั้น ขอให้พี่น้องชาวกรุงเทพมหานครเชื่อมั่นว่ามวลน้ำหลากจากภาคเหนือและน้ำทะเลหนุนสูงในช่วงนี้จะไม่ส่งผลกระทบอย่างแน่นอน


สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ

6 สิงหาคม 2568


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รองอธิบดีกรมพัฒน์ ลงพื้นที่ให้กำลังใจเยาวชน ก่อนลุยเวทีอาเซียน มั่นใจคว้าเหรียญกลับบ้าน

  รองอธิบดีกรมพัฒน์ ลงพื้นที่ให้กำลังใจเยาวชน  ก่อนลุยเวทีอาเซียน มั่นใจคว้าเหรียญกลับบ้าน  วันที่ 6 สิงหาคม 2568  นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์  อ...