วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

GAC AION Thailand ตอกย้ำวิสัยทัศน์ “ฐานการผลิตระดับโลก” ผนึกกำลัง BOI และ กนอ. จัดงาน Business Matching ครั้งใหญ่ มุ่งสร้างซัพพลายเชน EV ไทยสู่สากล

 GAC AION Thailand ตอกย้ำวิสัยทัศน์ “ฐานการผลิตระดับโลก” ผนึกกำลัง BOI และ กนอ. จัดงาน Business Matching ครั้งใหญ่ มุ่งสร้างซัพพลายเชน EV ไทยสู่สากล


GAC AION Thailand ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการลงทุนระยะยาวในประเทศไทยและการเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานสะอาด ประกาศความสำเร็จในการจัดงาน “GAC Business Matching Event” ณ ห้องประชุมสมเจตน์ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) สำนักงานมาบตาพุด จังหวัดระยอง.

กิจกรรมครั้งสำคัญนี้ จัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่าง GAC AION Thailand, สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อสรรหาและเชื่อมโยงผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์สัญชาติไทยที่มีศักยภาพ เข้าสู่ห่วงโซ่อุปทานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าระดับโลกของ GAC AION โดยตรง โดยมีบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยที่ผ่านการคัดเลือกและได้รับเชิญเข้าร่วมเจรจาธุรกิจกว่า 27 บริษัท

Mr. Andrew Wang ประธานกรรมการบริหาร GAC AION Thailand ได้กล่าวต้อนรับและนำเสนอวิสัยทัศน์ของ GAC AION Thailand ภายใต้กลยุทธ์ "ONE GAC" ว่า "GAC AION ไม่ได้มองประเทศไทยเป็นเพียงตลาด แต่คือบ้านหลังที่สองและเป็นศูนย์กลางยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่สุดของเราในภูมิภาค เราได้วางตำแหน่งให้ประเทศไทยเป็น ‘สำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก’ และ ‘ฐานการผลิตรถยนต์พวงมาลัยขวาระดับโลก’ โรงงานของเราที่จังหวัดระยอง ซึ่งเริ่มดำเนินการผลิตตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2567 คือบทพิสูจน์ที่ชัดเจน"

"ปัจจุบัน เรามีความภูมิใจที่สามารถสร้างอัตราส่วนการใช้ชิ้นส่วนในประเทศ (Localization) ได้ถึง 51% และเราจะไม่หยุดเพียงเท่านี้" Mr. Andrew Wang กล่าวเสริม "งาน Business Matching ในวันนี้ คือคำยืนยันในคำมั่นสัญญาของเรา ในการลงทุน เพื่อสร้างงาน เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยี และเพื่อเติบโตไปพร้อมกับอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทย เรากำลังเดินหน้าสู่เป้าหมายการผลิตแบบ CKD ภายในปี 2570 และท้าทายเป้าหมายยอดขายในประเทศ 50,000 คัน และส่งออก 50,000 คัน ภายในปี 2573 ซึ่งการจะบรรลุเป้าหมายนี้ได้ 'พาร์ทเนอร์ซัพพลายเชนในประเทศ' คือหัวใจที่สำคัญที่สุด"

นางสาวพัชรดา นวกะวงษ์การ, ผู้อำนวยการกองพัฒนาผู้ประกอบการไทย (BOI) กล่าวเปิดงานในนามของ BOI ว่า "ภารกิจสำคัญของ BOI นอกเหนือจากการส่งเสริมการลงทุน คือการสร้างความเชื่อมโยงของห่วงโซ่อุปทานและยกระดับความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทย กิจกรรมในวันนี้ถือเป็นความต่อเนื่องจากงาน AION SOURCING DAY เมื่อปลายปี 2567 และแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงของ GAC AION ที่จะพัฒนา Supply Chain ภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง BOI ยินดีที่ได้เป็นสะพานเชื่อมโยง GAC AION กับผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพใน 3 กลุ่มชิ้นส่วนเป้าหมายหลัก ได้แก่ Interior & Exterior, Body & Chassis และ Electrical & Safety เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับอุตสาหกรรม EV ของไทยอย่างยั่งยืน"

นางสาวนลินี กาญจนามัย, รองผู้ว่าการ (บริหาร) การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวต้อนรับในนามของ กนอ. ว่า "กนอ. ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับ GAC Group และผู้ประกอบการทุกท่านสู่พื้นที่มาบตาพุด การที่ GAC AION ซึ่งเป็นผู้ผลิต EV ชั้นนำระดับโลก เลือกใช้ฐานการผลิตในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดระยอง และยังจัดกิจกรรมเชื่อมโยงซัพพลายเชนในพื้นที่ EEC อย่างต่อเนื่อง ถือเป็นสัญญาณบวกที่ชัดเจนต่อการพัฒนาระบบเศรษฐกิจแบบครบวงจร และช่วยส่งเสริมการเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานระหว่างผู้ใช้และผู้ผลิตชิ้นส่วนโดยตรง"

Miss Yang Wei ผู้อำนวยการฝ่ายจัดซื้อจากสำนักงานใหญ่ GAC Group ได้นำเสนอนโยบายการจัดซื้อของ GAC Group โดยเน้นย้ำว่า "ปรัชญาการจัดซื้อของ GAC คือ 'ประสิทธิภาพ ความโปร่งใส และการสร้างสรรค์ร่วมกัน' (Efficiency, Transparency, and Co-creation) เราไม่ได้มองหาแค่ 'ผู้ขาย' แต่เรามองหา 'พาร์ทเนอร์' ที่จะวางแผนและเติบโตไปด้วยกันในระดับโลก ปัจจุบัน GAC มีซัพพลายเออร์ไทยที่ผ่านกระบวนการและเข้าระบบแล้ว 24 ราย และเรากำลังขยายการจัดซื้อในประเทศ จากชิ้นส่วนทั่วไปที่ไทยมีความได้เปรียบ ไปสู่ชิ้นส่วนเทคโนโลยีหลักของ EV เช่น โครงสร้างแบตเตอรี่ (Battery Housings) และระบบ BMS เราสนับสนุนให้พาร์ทเนอร์ตั้งโรงงานหรือคลังสินค้าใกล้กับฐานการผลิตของเรา เพื่อสร้างห่วงโซ่อุปทานที่มั่นคงและมีประสิทธิภาพสูงสุด"

ด้าน Mr. He Liang ผู้อำนวยการฝ่ายคุณภาพ ได้นำเสนอมาตรฐานการควบคุมคุณภาพที่เข้มงวดว่า "คุณภาพคือหัวใจของ GAC ในยุคยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ (ICV) เรามี 4 เสาหลักในการควบคุมคุณภาพ EV ที่เข้มงวด ได้แก่ 1. ความปลอดภัย (Safety) ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญ 2. คุณภาพซอฟต์แวร์ (Software Quality) ที่มีบทบาทมากขึ้น 3. ความทนทานและความน่าเชื่อถือ (Durability and Reliability - QDR) และ 4. ประสบการณ์ลูกค้า (Customer Experience) เช่น เสียง (NVH) และกลิ่นในห้องโดยสาร"

"เราใช้ระบบ QA-Net ในการควบคุมคุณภาพซัพพลายเออร์ ซึ่งครอบคลุมไปถึง Tier-2 และใช้หลักการ ‘Stop, Call, Wait’ อย่างจริงจัง คือต้องหยุดทันทีเมื่อเจอปัญหา ห้ามปล่อยให้ปัญหาหลุดไปยังกระบวนการถัดไป GAC AION ได้เปลี่ยนวิธีคิดจากมุมมองวิศวกรเป็นมุมมองผู้ใช้งาน (User-oriented) และเราต้องการพาร์ทเนอร์ที่เข้าใจในปรัชญานี้ เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่สร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า"

การจัดงาน GAC Business Matching Event ในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นการตอกย้ำถึงความก้าวหน้าของแผนงาน "ONE GAC" ในประเทศไทย แต่ยังเป็นการส่งเสริมและยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์สะอาดของไทยอย่างเป็นรูปธรรม GAC AION พร้อมที่จะเติบโตไปพร้อมกับพันธมิตรซัพพลายเออร์ชาวไทย เพื่อบรรลุเป้าหมายในการเป็น "ผู้สร้างสรรค์คุณค่าแห่งการเดินทางที่ดียิ่งขึ้น" (Value Creator for a Better Mobile Life) ให้กับผู้บริโภคในไทยและทั่วโลก


ผู้ที่สนใจรถยนต์พลังงานใหม่จาก GAC AION Thailand สามารถดูรายละเอียดและเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์

www.aionauto.com/th-th/ 

และลงทะเบียนเพื่อทดลองขับได้ที่ www.aionauto.com/th-th/test-drive/AION%20V




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

“ ส.นักศึกษาเก่า มช. ” นำ นักปั่น 40 ชีวิต จัดกิจกรรม “ ปั่นเพื่อน้อง ” กรุงเทพ-เชียงใหม่ ครั้งที่ 8

  “ ส.นักศึกษาเก่า มช. ” นำ นักปั่น 40 ชีวิต จัดกิจกรรม “ ปั่นเพื่อน้อง ” กรุงเทพ-เชียงใหม่ ครั้งที่ 8  นักปั่น 40 ชีวิต ร่วมปั่นจักรยาน จาก...