กรมพัฒน์ อุ่นเครื่องเยาวชนทีมชาติ ช่างฝีมือไทยสู้ศึก WorldSkills ASEAN 2025 ที่ฟิลิปปินส์
วันที่ 14 พฤษภาคม 2568 นายสมชาติ สุภารี รองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเตรียมความพร้อมก่อนเก็บตัวฝึกซ้อมของเยาวชนที่เข้าร่วมการแข่งขันฝีมือแรงงานอาเซียน ครั้งที่ 14 โดยมี ผู้บริหารกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เยาวชน ผู้เชี่ยวชาญด้านการแข่งขันฝีมือแรงงานร่วมในพิธีดังกล่าว ณ โรงแรมไพน์เฮิร์สท กอล์ฟ คลับ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
นายสมชาติ สุภารี รองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดเผยหลังจากพิธีดังกล่าวว่า ปัจจุบันรัฐบาลไทยมุ่งเน้นการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานให้มีสมรรถนะสูงซึ่งการแข่งขันฝีมือแรงงานเป็นกลไกการพัฒนาที่ตอบโจทย์การพัฒนาทักษะดังกล่าว เพื่อเตรียมความพร้อมสู่การจ้างงาน นอกจากการพัฒนาทักษะด้านเทคนิค (technical skills) การแข่งขันยังสร้างเสริมให้ผู้เข้าแข่งขันเป็นผู้รอบรู้ มีทักษะและสมรรถนะที่สมดุล ทั้งการสื่อสาร การแก้ไขปัญหา การบริหารจัดการเวลา และการปฏิบัติงานภายใต้สภาวะกดดัน ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของการแข่งขันฝีมือแรงงานตามรูปแบบขององค์การการแข่งขันฝีมือแรงงานนานาชาติ โดยการสัมมนาครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 - 15 พฤษภาคม 2568 ผู้เข้าร่วมสัมมนา ประกอบด้วย เยาวชนที่จะเก็บตัวฝึกซ้อม ผู้เชี่ยวชาญ ล่ามและหัวหน้าทีมผู้แข่งขัน ที่จะปฏิบัติหน้าที่ในการแข่งขันฝีมือแรงงานอาเซียน ครั้งที่ 14 รวมจำนวน 78 คน เพื่อได้รับทราบกฎการแข่งขัน บทบาทของผู้แข่งขัน และผู้เชี่ยวชาญ การตรวจให้คะแนนในการแข่งขัน การรับมือกับความกดดัน การแลกเปลี่ยนและถ่ายทอดประสบการณ์จากผู้เชี่ยวชาญ การสร้างแรงบันดาลใจ และการรับมือภายใต้ภาวะความกดดันสูง ก่อนที่จะเข้าร่วมการแข่งขันฝีมือแรงงานอาเซียน (WorldSkills ASEAN Competition 2025) ซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 21 - 31 สิงหาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมและแสดงสินค้าเวิร์ลเทรด เซ็นเตอร์ เมโทร กรุงมะนิลา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์
นายสมชาติ กล่าวต่อไปว่า กรมได้ร่วมกับพันธมิตรภาครัฐ และภาคเอกชนจัดส่งเยาวชน และผู้เชี่ยวชาญตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขัน จำนวน 17 สาขา ประกอบด้วย 1. สาขาการสร้างโมเดลในเกมสามมิติ 2. สาขาหุ่นยนต์เคลื่อนที่ (ประเภททีม) 3. สาขาเทคโนโลยีระบบไฟฟ้าภายในอาคาร 4. สาขาแต่งผม 5. สาขาเมคคาทรอนิกส์ (ประเภททีม) 6. สาขาเทคโนโลยีระบบทำความเย็น 7. สาขาการปูกระเบื้อง 8. สาขาเทคโนโลยีงานเชื่อม 9. สาขาเทคโนโลยีเว็บ 10. สาขาอุตสาหกรรม 4.0 (ประเภททีม) 11. สาขาการบำรุงรักษาเครื่องจักรกล CNC (ประเภททีม) 12. สาขาไม้เครื่องเรือน 13. สาขาการประกอบอาหาร 14. สาขาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ (ประเภททีม) 15. สาขากราฟิกดีไซน์ 16. สาขาการเขียนแบบวิศวกรรมเครื่องกลด้วยคอมพิวเตอร์ และ 17. สาขาการบริการอาหารและเครื่องดื่ม
ทั้งนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเยาวชนไทย จะสามารถคว้ารางวัล และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศต่อไป รองอธิบดีสมชาติ กล่าวทิ้งท้าย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น