วันอาทิตย์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2568

สทนช. รับลูก “รองนายกฯ ประเสริฐ” ประชุมศูนย์ส่วนหน้าฯ ลุ่มน้ำโขงตะวันออกเฉียงเหนือ และลุ่มน้ำยม - น่าน เน้นเตรียมพร้อมรับฝนหนักจากอิทธิพลพายุ “คาจิกิ”

 สทนช. รับลูก “รองนายกฯ ประเสริฐ” ประชุมศูนย์ส่วนหน้าฯ ลุ่มน้ำโขงตะวันออกเฉียงเหนือ และลุ่มน้ำยม - น่าน เน้นเตรียมพร้อมรับฝนหนักจากอิทธิพลพายุ “คาจิกิ”

สทนช. ประชุมด่วน 2 ศูนย์ฯ ส่วนหน้า รับมือพายุ “คาจิกิ” เร่งพร่องน้ำจากอ่างฯ เตรียมรองรับฝนตกหนัก พร้อมประสาน 

MRCS - สปป.ลาว - จีน เพื่อลดผลกระทบให้ชาวริมโขง หลังคาดระดับน้ำโขงจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว 


วันนี้ (24 สิงหาคม 2568) ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานการประชุมคณะทำงานอำนวยการบริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยลุ่มน้ำโขงตะวันออกเฉียงเหนือ ครั้งที่ 4/2568 ณ ศาลากลางจังหวัดหนองคาย และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ จากนั้นในช่วงบ่าย นางพัชรวีร์ สุวรรณิก รองเลขาธิการ สทนช. เป็นประธานการประชุมคณะทำงานอำนวยการบริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยลุ่มน้ำยม-น่าน ครั้งที่ 3/2568 ณ ศาลากลางจังหวัดน่าน และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้แทนจากจังหวัดในพื้นที่ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม  


ดร.สุรสีห์ เปิดเผยว่า ตามที่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ได้สั่งการให้ สทนช. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ฝนตกหนักจากอิทธิพลของพายุ “คาจิกิ” รวมถึงพายุที่อาจจะก่อตัวในช่วงต้นเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ สทนช. จึงได้ประชุมร่วมกับศูนย์ส่วนหน้าฯ ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับผลกระทบ เพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินการตามข้อสั่งการของรองนายกรัฐมนตรี และความพร้อมในการรองรับสถานการณ์ โดยปัจจุบัน พายุ “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไต้ฝุ่นแล้ว ซึ่งคาดว่าฝนจากพายุในระลอกนี้ จะส่งผลให้ในช่วงวันที่ 25 - 30 สิงหาคมนี้ จะมีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่เพิ่มเติมจำนวนมาก โดยเฉพาะเขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ และเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก ที่คาดจะมีน้ำไหลเข้าแห่งละมากกว่า 500 ล้านลูกบาศก์เมตร (ล้าน ลบ.ม.) รวมถึงเขื่อนน้ำอูนและหนองหาร จังหวัดสกลนคร ที่แต่ละแห่งคาดว่าจะมีน้ำไหลเข้ามากกว่า 100 ล้าน ลบ.ม. จึงได้หารือร่วมกับกรมชลประทานและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อปรับอัตราการระบายน้ำของอ่างฯ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยในส่วนของเขื่อนสิริกิติ์ที่ยังคงมีปริมาณน้ำมาก ได้ปรับอัตราการระบายน้ำจากเดิม 45 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน เป็น 50 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน ในช่วงวันที่ 23 - 31 สิงหาคม 2568 โดยคำนึงถึงการบริหารจัดการน้ำในภาพรวมทั้งหมดของลุ่มน้ำเจ้าพระยาให้เป็นไปอย่างเหมาะสม ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำให้มีการประสานงานเพื่อบริหารจัดการน้ำร่วมกับเขื่อนทดน้ำผาจุก จังหวัดอุตรดิตถ์ และเขื่อนนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก ให้มีความสมดุล ช่วยป้องกันผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตรและชุมชนเมือง ทั้งในด้านเหนือน้ำและท้ายน้ำ นอกจากนี้ ได้เน้นย้ำการเตรียมพื้นที่ลุ่มต่ำสำหรับหน่วงน้ำหลากก่อนไหลเข้าสู่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ทั้งทุ่งบางระกำ ทุ่งลุ่มต่ำลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง 10 ทุ่ง และบึงบอระเพ็ด ซึ่งปัจจุบันเกือบทุกแห่งเก็บเกี่ยวผลผลิตใกล้แล้วเสร็จ ยกเว้นทุ่งบางกุ่มที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวแล้วเสร็จภายในวันที่ 20 ตุลาคมนี้ โดยที่ผ่านมากรมชลประทานได้ลงพื้นที่เพื่อทำความเข้าใจกับพี่น้องเกษตรกรและประชาชนอย่างต่อเนื่อง 


สำหรับพื้นที่ริมแม่น้ำโขง ได้เน้นย้ำให้จังหวัดเตรียมพร้อมรับมือกับระดับน้ำโขงที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว 

โดย สทนช. จะประสานสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRCS) เพื่อประเมินพื้นที่เสี่ยงน้ำล้นตลิ่งอย่างต่อเนื่อง 

เพื่อนำข้อมูลมาบูรณาการร่วมกับจังหวัดในการบริหารจัดการน้ำและแจ้งเตือนล่วงหน้า พร้อมทั้งจะประสานงานร่วมกับ สปป.ลาว 

ในการระบายน้ำของเขื่อนที่มีน้ำมาก รวมทั้งประสานไปยังประเทศจีน ในการบริหารจัดการเขื่อนในพื้นที่ต้นน้ำให้สอดคล้องกับลุ่มน้ำโขงตอนล่าง เพื่อลดผลกระทบต่อชุมชนริมแม่น้ำโขง ในส่วนของแหล่งกักเก็บน้ำทุกขนาดที่ได้มีการพร่องน้ำเตรียมพื้นที่ว่างไว้แล้ว 

แต่ยังมีปริมาณน้ำค่อนข้างมากหรือมีแนวโน้มน้ำไหลเข้าเพิ่มขึ้น อาทิ หนองกุดทิง จังหวัดบึงกาฬ และเขื่อนน้ำอูน จังหวัดสกลนคร จะต้องประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อปรับแผนการระบายน้ำ เพิ่มพื้นที่รองรับน้ำไหลเข้า โดยไม่ให้ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายน้ำ 


“สำหรับพายุ “คาจิกิ” คาดว่าจะมีเส้นทางใกล้เคียงกับ พายุ “วิภา” แต่จะมีแนวโน้มกระจายตัวมากกว่า โดยต้องขอชื่นชมทุกหน่วยงานที่ได้ดำเนินการตามข้อสั่งการที่ได้รับอย่างเคร่งครัด ทั้งการซ่อมแซมคันกั้นน้ำที่ชำรุดเสียหาย การเตรียมความพร้อมเครื่องจักรสาธารณภัย การติดตั้งเครื่องจักรเครื่องมือเพื่อสูบระบายน้ำ การจัดเตรียมชุดปฏิบัติการเพื่อเฝ้าระวังในทุกจุดเสี่ยง โดยวันนี้ยังคงเน้นย้ำในเรื่องการเตรียมแผนอพยพผู้ประสบภัย โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ให้มีความพร้อมสูงสุด รวมถึงกำชับให้ทุกจังหวัดติดตามข้อมูลฝนจาก Radar Composite โดยกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) (สสน.) เพื่อประเมินความเสี่ยงในการเกิดฝนตกหนักและแจ้งเตือนประชาชนได้ทันท่วงที” เลขาธิการ สทนช. กล่าว


สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ

24 สิงหาคม 2568


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สทนช. รับลูก “รองนายกฯ ประเสริฐ” ประชุมศูนย์ส่วนหน้าฯ ลุ่มน้ำโขงตะวันออกเฉียงเหนือ และลุ่มน้ำยม - น่าน เน้นเตรียมพร้อมรับฝนหนักจากอิทธิพลพายุ “คาจิกิ”

  สทนช. รับลูก “รองนายกฯ ประเสริฐ” ประชุมศูนย์ส่วนหน้าฯ ลุ่มน้ำโขงตะวันออกเฉียงเหนือ และลุ่มน้ำยม - น่าน เน้นเตรียมพร้อมรับฝนหนักจากอิทธิพลพ...