วันจันทร์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2568

“รองนายกฯ ประเสริฐ” ย้ำการปรับเพิ่มการระบายน้ำเขื่อนสิริกิติ์ไม่กระทบเจ้าพระยา​ ยืนยันรัฐบาลจะแจ้งเตือนและดูแลประชาชนอย่างเต็มกำลังในทุกสถานการณ์

 “รองนายกฯ ประเสริฐ” ย้ำการปรับเพิ่มการระบายน้ำเขื่อนสิริกิติ์ไม่กระทบเจ้าพระยา​  ยืนยันรัฐบาลจะแจ้งเตือนและดูแลประชาชนอย่างเต็มกำลังในทุกสถานการณ์

วันนี้ (5 สิงหาคม 2568) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) เปิดเผยว่า จากอิทธิพลของพายุ “วิภา” ในระยะที่ผ่านมา ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าสู่เขื่อนสิริกิติ์เป็นจำนวนมาก โดยเขื่อนได้ทำหน้าที่หน่วงน้ำเพื่อช่วยลดผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายน้ำ และสนับสนุนให้การระบายน้ำจากลุ่มน้ำยมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีฝนตกในพื้นที่ตอนบนของประเทศน้อยลง ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำและลำน้ำต่าง ๆ มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสถานการณ์อุทกภัยในลุ่มน้ำยม - น่าน เริ่มคลี่คลาย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จึงใช้ช่วงเวลานี้ในการทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำ

ในเขื่อนสิริกิติ์ จากอัตรา 10 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวัน เป็น 40 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน และวานนี้ (4 สิงหาคม 2568) ได้ปรับเพิ่มเป็น 45 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน รวมถึงจะเพิ่มการระบายน้ำในช่วงวันที่ 5 – 15 สิงหาคม โดยคงอัตราที่ 50 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน เพื่อพร่องน้ำสำหรับเตรียมพื้นที่ว่างรองรับฝนที่คาดว่าจะตกหนักในช่วงหลังจากนี้ ซึ่งได้สั่งการให้มีการติดตามวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับแผนการบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสม โดยคำนึงถึงผลกระทบของประชาชนทั้งเหนือน้ำและท้ายน้ำเป็นอันดับแรก  


สำหรับมวลน้ำที่ระบายจากเขื่อนสิริกิติ์ ปัจจุบันได้ไหลมาถึงสถานี N.5A บริเวณอำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก และคาดว่ามวลน้ำจะเคลื่อนไปถึง สถานี N.67 อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ อีกใน 2 วันข้างหน้า โดยปริมาณน้ำดังกล่าวจากเขื่อนสิริกิติ์ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อระดับน้ำหน้าเขื่อนเจ้าพระยาให้สูงขึ้น ทำให้วันนี้เขื่อนเจ้าพระยาสามารถปรับลดอัตราการระบายลงได้ จาก 900 ลบ.ม. ต่อวินาที เหลือ 800 ลบ.ม. ต่อวินาที โดยมีการบริหารจัดการน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาด้วยการรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่ง ตามศักยภาพของคลอง เพื่อลดผลกระทบด้านท้ายน้ำให้ได้มากที่สุด แต่เนื่องจากในช่วง 2 – 3 วันนี้ มีแนวโน้มฝนจะเพิ่มขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน และจะกลับมาตกมากขึ้นอีกครั้งในช่วงหลังกลางเดือนสิงหาคม จึงขอให้ประชาชนที่อยู่นอกคันกั้นน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยายังคงยกของขึ้นที่สูงไว้เช่นเดิม เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับทรัพย์สิน ทั้งนี้ หน่วยงานภาครัฐจะแจ้งเตือนข้อมูลข่าวสารที่สำคัญให้ได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถติดตามข้อมูลสถานการณ์น้ำแบบเรียลไทม์และข่าวสารผ่านช่องทางแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ "Nation Thai Water" และ LINE "ไทยคู่ฟ้า" รวมทั้งขอยืนยันว่ารัฐบาลจะอยู่เคียงข้างและดูแลพี่น้องประชาชนอย่างเต็มกำลังในทุกสถานการณ์


สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ

5 สิงหาคม 2568


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

“DIT” ลุยตรวจล้งทุเรียนยะลา เดินหน้าคุ้มครองเกษตรกรให้ได้รับความเป็นธรรม

  “DIT” ลุยตรวจล้งทุเรียนยะลา เดินหน้าคุ้มครองเกษตรกรให้ได้รับความเป็นธรรม นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมการค้าภาย...