วันอังคารที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2568

บอร์ดปฐมวัยเปิดเวทีดันวาระแห่งชาติ 3 เร่ง 3 ลด 3 เพิ่มรู้ทันภัยเงียบ “งดใช้จอ ก่อน 2 ขวบ” สร้างเด็กคุณภาพในยุคดิจิทัล

 บอร์ดปฐมวัยเปิดเวทีดันวาระแห่งชาติ 3 เร่ง 3 ลด 3 เพิ่มรู้ทันภัยเงียบ “งดใช้จอ ก่อน 2 ขวบ” สร้างเด็กคุณภาพในยุคดิจิทัล

วันที่ 23 กันยายน 2568 รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการสภาการศึกษา กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเด็กปฐมวัย เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมเสวนาวิชาการ เรื่อง รู้ทันภัยวัยเด็ก งดสื่อหน้าจอก่อน 2 ขวบ พร้อมด้วย นายธฤติ ประสานสอน รองเลขาธิการสภาการศึกษา โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมจากหน่วยงานรัฐและเอกชนที่ดูแลรับผิดชอบเด็กปฐมวัย และพ่อแม่ผู้ปกครอง เข้าร่วมประชุม ณ โรงแรมไมด้า งามวงศ์วาน จ.นนทบุรี


รศ.ดร.ประวิต กล่าวเปิดงานและนำเสนอวิสัยทัศน์ว่า จากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2568 มีมติเห็นชอบข้อเสนอเชิงนโยบาย “3 เร่ง 3 ลด 3 เพิ่ม” เพื่อส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยในสภาวะวิกฤตเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งปัจจุบันโลกได้เข้าสู่สังคมแห่งเทคโนโลยี ทำให้เด็กยุคใหม่จะมีโอกาสในการใช้เวลาอยู่กับหน้าจอเพิ่มมากขึ้น จากการวิจัยของวอลดอฟเชื่อว่าเด็กมีพัฒนาการตามช่วงวัยเป็นขั้นบันได โดยสิ่งกระตุ้นจากพ่อแม่และสภาพแวดล้อมมีผลต่อการตอบสนองของเด็ก รวมถึงการเรียนรู้จากประสบการณ์ผ่านกิจกรรมจะช่วยกระตุ้นจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาจึงเห็นควรผลักดันมาตรการ “3 ลด” มาตรการที่ 4 ลดใช้สื่อหน้าจอในเด็กปฐมวัยอย่างจริงจัง งดใช้ก่อนวัย 2 ขวบ เป็นมาตรการเร่งด่วนที่ควรประชาสัมพันธ์ให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง ครอบครัว ครู/ผู้ดูแลเด็ก และผู้ที่เกี่ยวข้องกับเด็กปฐมวัยได้เห็นประเด็นปัญหานี้ และร่วมกันประชาสัมพันธ์เผยแพร่เป็นมาตรการเร่งด่วนและดำเนินการนำสู่การปฏิบัติ โดยเชื่อมั่นว่าการสร้างพื้นฐานการเรียนรู้ที่ดี จะทำให้เด็กไทยเติบโตเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพ และเป็นกำลังสำคัญของการพัฒนาประเทศในอนาคต


ที่ประชุมร่วมรับฟัง Stand talk เรื่อง “การลงทุนในเด็กปฐมวัยช่วยสร้างสังคมคุณภาพได้” โดย ศ.ดร.ปังปอนด์ รักอำนวยกิจ กล่าวว่า การลงทุนในเด็กปฐมวัยถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด จากการศึกษาทางเศรษฐศาสตร์การศึกษาชี้ชัดว่า ทุก 1 บาทที่ลงทุนไปจะคืนกลับมามากกว่าหลายเท่าในอนาคต กอปรกับไทยก้าวสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ สังคมที่มีคุณภาพจึงต้องเริ่มจากการดูแลเด็กเล็กให้สมวัยเพื่อสร้างทรัพยากรมนุษย์ที่สมบูรณ์ ดังนั้น การงดใช้จอก่อน 2 ขวบถือเป็นก้าวสำคัญที่จะส่งผลต่อความสามารถในการเรียนรู้และคุณภาพแรงงานในอนาคต และเรื่อง “ภัยร้ายจากสื่อหน้าจออันตรายกว่าคิด” โดย ศ.นพ.วีระศักดิ์ ชลไชยะ กล่าวว่า อนาคตที่ดีของเด็กควรเริ่มตั้งแต่ปฐมวัย โดยเฉพาะพัฒนาการเด็กตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 ปี จะเป็นรากฐานของความเจริญก้าวหน้าและความยั่งยืนทางสังคม ผู้เลี้ยงดู คือ ผู้สร้างเครือข่ายการเรียนรู้ในสมองเด็ก ซึ่งต้องใช้การเลี้ยงดูจากผู้ใหญ่ที่มีความมั่นคง ดูแลเอาใจใส่ และมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกัน รวมถึงปัญหาการใช้สื่อหน้าจอกับสมองด้านภาษาและการอ่าน พบว่า เด็กที่ใช้สื่อหน้าจอมากจะมีความสัมพันธ์กับการลดลงของ white matter tracts ในสมองซึ่งสอดคล้องกับการประเมินทางสติปัญญา ตลอดจนปัญหาของเด็กที่อายุน้อยกว่า 3 ปี ที่ได้รับสื่อมากกว่า 1 อย่างพร้อมกันสัมพันธ์กับปัญหา EF เพิ่มขึ้น และปัญหาสื่อที่กระทบต่อพฤติกรรมทั้งด้านการนอน อารมณ์ ความก้าวร้าว ทั้งนี้ หากจะให้ลูกใช้สื่อหน้าจอควรเลือกโปรแกรมที่มีคุณภาพเหมาะสมตามวัย สิ่งสำคัญคือ เน้นส่งเสริมให้เด็กนอนหลับ ออกกำลังกาย เล่นตามวัย อ่านหนังสือ และมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมกับเด็กอย่างเพียงพอ


นอกจากนี้มีการเสวนาวิชาการ “รู้ทันภัยวัยเด็ก งดสื่อหน้าจอก่อน 2 ขวบ” โดย นางธิดา พิทักษ์สินสุข นายธาม เชื้อสถาปนศิริ นายสุรเสกข์ ยุทธิวัฒน์ นายอนิก พลทัตพชระ และ ภญ.ณัฐกานต์ ประสพสายพรกุล สรุปว่า ช่วงปฐมวัย 0 - 6 ปี เป็นวัยรากฐานของชีวิตมนุษย์ ซึ่งเป็นวัยที่ไวต่อปัจจัยที่มากระทบและเป็นหน้าต่างแห่งโอกาส การเลี้ยงดูมีผลอย่างยิ่งต่อเด็ก ‘จอ’ ไม่ใช่พี่เลี้ยง แต่เป็นภัยเงียบที่ทำลายพัฒนาการและธรรมชาติของการเรียนรู้ของเด็กเล็ก จึงต้องหันมาสร้างเวลาคุณภาพ ส่งเสริมพัฒนาการ 4 ด้าน ได้แก่ กิน นอน กอด และเล่น เน้นสร้างโอกาสให้เด็กได้พัฒนา SELF & EF คิดและทำด้วยกัน ตลอดจนเน้นการใช้สื่อเย็น เช่น ของเล่น สนามเด็กเล่น สิ่งพิมพ์ เครื่องกีฬา เป็นต้น และที่ประชุมร่วมสรุปแนวทางการขับเคลื่อนมาตรการลดการใช้สื่อหน้าจอในเด็กปฐมวัยอย่างจริงจัง : งดใช้ก่อนวัย 2 ขวบ ไปสู่การปฏิบัติจริง โดย นางสรวงมณฑ์ สิทธิสมาน ได้เน้นถึง การแก้ปัญหาการใช้จอเกินวัยในเด็กปฐมวัยต้องการมาตรการที่เข้มข้นและจริงจัง ไม่ใช่แค่การให้ข้อมูลหรือคำเตือน แต่ต้องเป็นนโยบายที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริงในระดับครอบครัว ชุมชน และสังคม โดยการ ‘ลดการใช้สื่อหน้าจออย่างจริงจัง งดใช้ก่อนวัย 2 ขวบ’ จะต้องทำให้เป็นบรรทัดฐาน ทั้งนี้ การขับเคลื่อนข้อเสนอเชิงนโยบาย ‘3 เร่ง 3 ลด 3 เพิ่ม’ จะช่วยให้มีกรอบปฏิบัติที่ชัดเจนและเชื่อมโยงทุกภาคส่วน ทั้งครอบครัว โรงเรียน หน่วยงานรัฐ และสื่อมวลชนร่วมกัน เพื่อสร้างสังคมที่ปลอดภัยและคุณภาพสำหรับเด็กไทยทุกคน


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งานใหญ่แห่งปี! สกศ.จัด DQ Power เสริมพลังเครือข่าย สร้างภูมิคุ้มกันดิจิทัล ยกระดับความฉลาดสู้ภัยไซเบอร์ในโลก AI

  งานใหญ่แห่งปี! สกศ.จัด DQ Power เสริมพลังเครือข่าย สร้างภูมิคุ้มกันดิจิทัล ยกระดับความฉลาดสู้ภัยไซเบอร์ในโลก AI วันที่ 23 กันยายน 2568  รศ...