งานใหญ่แห่งปี! สกศ.จัด DQ Power เสริมพลังเครือข่าย สร้างภูมิคุ้มกันดิจิทัล ยกระดับความฉลาดสู้ภัยไซเบอร์ในโลก AI
วันที่ 23 กันยายน 2568 รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการสภาการศึกษา เป็นประธานและมอบเกียรติบัตรแก่สถานศึกษาที่เข้าร่วมกิจกรรม การพัฒนานวัตกรรม แบบเปิดเพื่อพัฒนาความฉลาดทางดิจิทัล (DQ Open Innovation 2025) ในงานการประชุมสัมมนาวิชาการ “DQ Power เสริมพลังเครือข่ายความฉลาดทางดิจิทัลในยุค AI” โดยมี ดร.นิติ นาชิต รองเลขาธิการสภาการศึกษา ผู้บริหาร ครูอาจารย์ บุคลากรทางการศึกษาทุกสังกัด ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และสื่อมวลชน กว่า 300 คน เข้าร่วมประชุมในรูปแบบผสมผสานทั้งออนไลน์และออนกราวด์ ณ โรงแรมแกรนด์ ริชมอนด์ จ.นนทบุรี
รศ.ดร.ประวิต กล่าวเปิดประชุมตอนหนึ่งว่า ปัจจุบันการปรับตัวในยุคดิจิทัลใช้ชีวิตในโลกสองใบ คือ โลกกายภาพ และ โลกดิจิทัล โดยเฉพาะเด็กที่ใช้เวลาในโลกดิจิทัลมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้น การศึกษาจึงต้องเน้นการสร้าง ความสมดุลในการใช้ชีวิต มนุษย์เป็นผู้สร้างไม่ใช่มนุษย์ผู้เสพ เทคโนโลยีจะทำให้เกิดความแตกต่างระหว่างผู้ที่สร้างนวัตกรรมกับผู้ที่เพียงแค่ใช้งาน การศึกษาจึงควรส่งเสริมให้เด็กมีทักษะและทัศนคติของ “มนุษย์ผู้สร้าง” เพื่อให้สามารถพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้ ระบบการศึกษาจึงต้องได้รับการปรับปรุงเพื่อรับมือกับโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ประเด็นสำคัญคือ การเปิดกว้างและยืดหยุ่นมากขึ้น เพื่อรองรับความสามารถที่หลากหลายของเด็ก การพัฒนาระบบการประเมินที่สอดคล้องกับความต้องการในอนาคต มีการจัดการทรัพยากร จัดสรรงบประมาณทางการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพและตรงจุด การผลิตครูดึงคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาเป็นครู เพื่อพัฒนาศักยภาพของเด็กได้อย่างเต็มที่
ดร.นิติ กล่าวว่า งานนี้มุ่งเน้นการขับเคลื่อนการศึกษาโดยใช้ Digital Quotient (DQ) หรือ ความฉลาดทางดิจิทัล เป็นพื้นฐานในการพัฒนาในยุคปัญญาประดิษฐ์ (AI) ประเด็นหลักคือการเปลี่ยนแปลงของการศึกษาอย่างรวดเร็วจนบางครั้งอาจตามไม่ทันการเปลี่ยนแปลงในมิติต่าง ๆ ดังนั้น สถาบันการศึกษาได้นำแนวคิด DQ มาปรับใช้ในการทำงานและบริหาร แลกเปลี่ยนเรียนรู้ จัดแสดงนิทรรศการ การถอดบทเรียนจากความสำเร็จ เพื่อนำไปสู่การประยุกต์ใช้ในการจัดการศึกษาต่อไป สำหรับเป้าหมายเพื่อยกระดับคุณภาพของผู้เรียนและผู้ที่อยู่ในโลกดิจิทัลให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยและอยู่รอดได้ในโลกดิจิทัล สำนักงานฯ ได้ตระหนักถึงความสำคัญจึงได้นำแนวคิดนี้ไปขับเคลื่อนในระดับปฏิบัติเพื่อร่วมกันพัฒนาต่อไป
นายจอห์น รัตนเวโรจน์ ประธานสมาคม และ นายมหาสมุทร รัตนเวโรจน์ อุปนายกสมาคม เครือข่ายเพื่อการเรียนรู้เท่าทันดิจิทัลเทคโนโลยี (D-Tech) กล่าวถึงการส่งเสริมการเรียนรู้เท่าทันดิจิทัลเทคโนโลยี โครงการ Digital Vaccine Powered by DQ ว่า โครงการนี้ตั้งเป้าหมายที่จะพัฒนา "พลเมืองดิจิทัล" มีคุณภาพ 50,000 คน ภายในปี 2027 เน้นการพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลที่ใช้งานได้จริง โดยพัฒนาครูและนักเรียนนำเกณฑ์ "BQ" (Digital Competence) ใช้ประเมินและพัฒนาครู 185 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้ครูมีความพร้อมด้านดิจิทัล สร้างหลักสูตรที่เรียกว่า "เชิงทีม" เข้าไปในโรงเรียน ให้นักเรียนสามารถสร้างและพัฒนาโปรเจกต์ได้จริง สามารถนำไปสร้าง Portfolio หรือแฟ้มสะสมผลงานดิจิทัลด้วยระบบ Micro-Credential เป็นการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ การเตรียมความพร้อมในด้านการบริหารจัดการระบบและการสร้างเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับ AI ให้ความสำคัญกับการลงมือปฏิบัติจริง ผู้เรียนสามารถนำไปใช้ได้ในชีวิตประจำวัน การใช้ Micro-Credential เป็นการออกใบรับรองทักษะเฉพาะด้านขนาดเล็ก (Micro-Credential) มีประโยชน์ในการใช้สมัครงานหรือนำไปเรียนต่อ
พ.ต.อ.ดร.อภิชาติ อภิชานนท์ ผกก. (กลุ่มงานสอบสวน) บก.สส. บช.น. กล่าวถึง “รู้ก่อน ปลอดภัยก่อน การป้องกันตนเองจากอาชญากรรมไซเบอร์” ว่า ภัยไซเบอร์ในปัจจุบันเป็นอาชญากรรมที่รุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักคือเด็กและเยาวชน รวมถึงผู้สูงอายุ วิธีป้องกันต้องตรวจสอบแหล่งที่มาของข้อมูลและระวังข้อเสนอที่ดูดีเกินจริง การใช้เครื่องมือออนไลน์ และตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ที่น่าสงสัย ดังนั้น ผู้ปกครองมีบทบาทสำคัญในการพูดคุยและให้ความรู้แก่ลูกหลาน ระมัดระวัง การเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวในโลกออนไลน์ ถ้าเมื่อตกเป็นเหยื่อ ต้องโทรศัพท์หาธนาคารเพื่ออายัดบัญชีปลายทางทันที แจ้งความออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของตำรวจไซเบอร์ หรือโทรสายด่วน 1441 และเก็บหลักฐานทั้งเบอร์โทรศัพท์และข้อความต่าง ๆ สิ่งสำคัญที่สุด คือการสร้างภูมิคุ้มกันและความรู้ด้านดิจิทัลให้แก่ประชาชน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุอาชญากรรมตั้งแต่แรก
การเสวนา เรื่อง “DQ ในโลกที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล” โดย รศ.ดร.อนุชัย ธีระเรืองไชยศรี รองผู้อำนวยการโครงการมหาวิทยาลัยไซเบอร์ไทย (TCU) กระทรวง อว. ดร.จีระพร สังขเวทัย ผู้อำนวยการสาขาเทคโนโลยี สสวท. ดร.ปัทมาวดี พัวพรหมยอด ผู้จัดการส่งเสริมนวัตกรรมอาวุโส NIA นางเขมนรินทร์ รัตนาอัมพวัลย์ รองประธาน DCT ดำเนินรายการโดยนายจามร กิจเสาวภาคย์ ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย (MCOT HD) ความฉลาดทางดิจิทัล มุ่งพัฒนาครอบคลุมทุกด้านของชีวิตดิจิทัล ตั้งแต่อัตลักษณ์ส่วนบุคคลและอัตลักษณ์ทางสังคมไปจนถึงการใช้เทคโนโลยี เช่น ความสามารถในการปฏิบัติงาน ความปลอดภัยด้านเทคโนโลยี และสิทธิมนุษยชนในยุคดิจิทัล นอกจากนี้ยังคำนึงถึงเรื่อง ความเคารพ ซึ่งเป็นหลักทางศีลธรรมขั้นพื้นฐานของปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน โดยหลักการสำคัญของชีวิตดิจิทัล คือการเคารพในสิทธิมนุษยชน ศักดิ์ศรี และคุณค่าของบุคคลในทุกด้านของดิจิทัล ซึ่งการทำให้นักเรียนรู้จักคิด ฉลาดรู้ อย่างรอบคอบ รู้จริยธรรม เคารพตนเอง เคารพผู้อื่น มีภูมิคุ้มกันทางอารมณ์ ปลูกฝังการรู้คิด เพื่อให้เด็กได้พัฒนา DQ การใช้เครื่องมืออย่างรู้เท่าทันและปลอดภัย สร้างสรรค์นักนวัตกรในอนาคต การส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต การพัฒนาทักษะดิจิทัล ทักษะด้าน AI การสร้างความร่วมมือจากหลายภาคส่วน การพัฒนาทักษะด้าน DQ เป็นพื้นฐานต้นน้ำเข้าไปในกระบวนการเทคโนโลยีภัยสังคมโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้น จำเป็นต้องสร้างภูมิคุ้มกัน มีจริยธรรม สร้างรากฐานดิจิทัลแห่งการเรียนรู้ โดยบูรณาการร่วมกันโรงเรียน เครือข่ายด้านการศึกษา และทุกภาคส่วน
ภายในงานเสวนา “การพัฒนานวัตกรรมแบบเปิดเพื่อพัฒนาความฉลาดทางดิจิทัล (DQ Open Innovation 2025)” ดำเนินรายการโดย รศ.ดร.อิศรา ก้านจักร คณบดีคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำเสนอผลงานนวัตกรรมจากโรงเรียนและหน่วยงานต่าง ๆ แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1) กลุ่มโมเดลและรูปแบบการจัดการ เน้นการนำเสนอรูปแบบการบริหารจัดการและกิจกรรมการเรียนการสอน 2) กลุ่มการพัฒนาแพลตฟอร์มและซอฟต์แวร์ เน้นการพัฒนาเครื่องมือและแอปพลิเคชันดิจิทัล และ 3) กลุ่มการพัฒนาอุปกรณ์และสื่อการสอน เน้นการสร้างสรรค์สื่อและอุปกรณ์เพื่อการเรียนรู้ นอกจากนี้ มีนิทรรศการแสดงผลงานเพื่อส่งเสริมความฉลาดทางดิจิทัล เช่น สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา สภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสมาคมเครือข่ายเพื่อการเรียนรู้เท่าทันดิจิทัลเทคโนโลยี (D-Tech)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น